พระศิวะ

พระศิวะ
พระพิฆเนศ
รูปภาพ
ผู้จัดทำ

ศิวลึงค์

กำเนิดศิวลึงค์

ตำนานการเกิดศิวลึงค์ในทางศาสนาสากลได้กล่าวไว้ว่า ในครั้งหนึ่งเจ้าแม่กาลีซึ่งเป็นอีกภาคหนึ่งของพระแม่อุมามหาเทวีอัครมเหสีขององค์พระศิวะมหาเทพนั้น ได้บังเกิดความกริ้วในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งทรงบังเกิดความไม่พอใจอย่างมาก จนกระทั่งได้เกิดโรคระบาดในหมู่บ้าน ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย ลมตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรดาชาวบ้านชาวเมืองได้เชื่อกันว่าภัยพิบัติครั้งนั้นเกิดขึ้นจากความกริ้วของเจ้าแม่กาลีเป็นแน่ ดังนั้นพวกพราหมณ์จึงได้ปรึกษาหารือกันแล้ว มีมติให้นำดินมาปั้นเป็นรูปอวัยวะเพศของพระศิวะ เพื่อถวายให้กับเจ้าแม่กาลี ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า พระแม่อุมาในภาคนี้นั้นค่อนข้างจะดุดันมิใช่น้อย

การปั้นเป็นรูปอวัยวะเพศให้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ตัวแทนของพระศิวะ แล้วนำไปถวายเพื่อบูชาเจ้าแม่กาลีนั้นจึงน่าจะทำให้เจ้าแม่เกิดความพอใจและระงับความกริ้วลงได้

ซึ่งปรากฏว่าเมื่อพวกพราหมณ์ได้นำเอาศิวลึงค์หรือรูปของลับนั้นไปบูชายังเทวลัย หรือศาลเจ้าที่มีรูปเคารพของเจ้าแม่กาลีประดิษฐานอยู่ และได้มีการสวดมนตร์สรรเสริญบูชา ถวายเครื่องบวงสรวงสังเวยต่างๆพร้อมกับรูปศิวลึงค์นั้น

ปรากฏว่าเมื่อเสร็จสิ้นการบวงสรวงบูชาในพิธีกรรมนั้น บรรดาชาวบ้าน ชาวเมืองก็ได้รอดพ้นจากโรคระบาด ที่ทำให้ป่วยไข้และล้มตายกันไปอย่างน่าอัศจรรย์นัก เพราะหลังจากนั้นไม่นานโรคระบาดก็ได้หายไปไม่เกิดขึ้นอีก จึงทำให้ได้มีการสร้างรูปศิวลึงค์กันอย่างแพร่หลาย และได้มีการประกอบพิธีกรรมบูชาศิวลึงค์นั้น ควบคู่ไปกับการสักการะบูชาเจ้าแม่กาลีด้วย

นี่เป็นตำนานการเกิดศิวลึงค์อีกตำนานหนึ่ง ซึ่งยังได้ระบุว่าการที่พ่อแม่นำศิวลึงค์ขนาดเล็กๆผูกไว้กับเชือกแล้วผูกรอบเอวของเด็ก ๆก็เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าแม่กาลีทำร้ายเด็กได้ เด็กที่ผูกศิวลึงค์ไว้ป้องกันตัว ก็จะแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งก็เป็นความเชื่อหนึ่งที่ยังมีให้เห็นในปัจจุบันนี้และแม้แต่ในบ้านเมืองเราก็มีปรากฏให้เห็นถึงความเชื่อนี้ด้วยเช่นกัน แต่เราจะเรียกศิวลึงค์นั้นว่า "ปลัดขิก"

ในเทวลัยบางแห่งนั้น นอกจากรูปศิวลึงค์ที่สร้างเป็นรูปแท่งอวัยวะเพสชาย จากหินบาง จากดินบ้างหรือจากไม้แกะสลักบ้างแล้วนั้น ในบางแห่งจะปรากฏว่าฐานของศิวลึงค์จะมีแท่นรองรับอีกแท่นหนึ่ง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แทนอวัยวะเพศหญิง เรียกกันว่า "โยนี" นั่นเอง

การที่ได้คิดสร้างโยนีเป็นแท่นรองรับศิวลึงค์นั้น ก็เพื่อให้เป็นเสมือนสัญลักษณ์แทนองค์พระแม่อุมา ที่เป็นอัครมเหสีขององค์พระศิวะมหาเทพนั่นเอง

และในความหมายอันลึกซึ่งกว่านั้น ตามคติพราหมณ์ได้เชื่อกันว่าทั้งโยนีและศิวลึงค์ ซึ่งเป็นอวัยวะเพศหญิงและอวัยวะเพศชายนั้น ก็เปรียบเสมือนสิ่งของที่จะต้องคู่กัน และมีพลังที่จะส่งเสริมกันให้มีอำนาจและมีพลังยิ่งใหญ่โดยแท้ เสมือนกับผู้หญิงที่มักจะเป็นแรงเสริมคอยผลักดันให้ผู้ชายได้มีอำนาจมีความยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง อันเป็นสิ่งที่จะต้องคู่กันและเสริมกันให้เกิดความสมบูรณ์อย่างแท้จริง ในการดำเนินชีวิตของมนุษยชาติ