๑๒-๑๓
ตุลาคม ๒๕๔๕ ชตุตการ์ต เยอรมนี นักศึกษาไทยในเยอรมันจากทุกทิศ และจากปารีสบางส่วน
ราว ๑๖๐ คน เดินทางมาร่วมประชุมงานวิชาการครั้งที่ ๑ อ. ประเวศ วะสี
อ. เสน่ห์ จามริก และ นพ. ชูชัย ศุภวงศ์ ให้เกียรติมาร่วมงาน
๒๑
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ไฮเดลแบร์ก เยอรมนี นักศึกษาไทยในเยอรมัน และจากปารีสบางส่วน
เดินทางมาร่วมประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมวิชาการ พร้อมกับร่วมฟังปาฐกถา
"บทบาทปัญญาชนต่อสังคมไทย" โดย สุลักษณ์ ศิวรักษ์
องค์ปาฐกจะแสดงปาฐกถาอย่างไรบ้างนั้น
ยังไม่ใช่กาละเทศะที่จะนำเสนอในที่นี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ
บางคน(นั้น)ไม่รู้จัก
ประเวศ วะสี
บางคน(นี้)ไม่เคยได้ยินชื่อ
สุลักษณ์ ศิวรักษ์
และ(อีก)หลายคนไม่รู้จัก
อ. เสน่ห์ จามริก รวมไปถึง นพ. ชูชัย ศุภวงศ์
ทั้งนี้(และ)ทั้งนั้น
มิได้ขึ้นกับปัจจัยว่า เขาหรือเธอเป็นเด็กที่เติบโตในต่างประเทศหรือเมืองไทย
เขาหรือเธอเป็นนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์หรือสังคมศาสตร์
คำถามก็คือ
ทำไมจึงไม่รู้จัก และมีความจำเป็นไหมที่ควรจะรู้จัก?
เพื่อนหนุ่มของข้าพเจ้าเคยพูดทำนองเปรยให้ฟังว่า
เขาไม่ค่อยนับถือบางคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นปัญญาชน เขาไม่ได้อธิบายเหตุผล
และข้าพเจ้าก็มิได้ถาม ได้แต่นึกภาวนาว่า ขอให้เขามีคนที่นับถือบ้าง
และขอให้ไม่ใช่ตัวของเขาเอง (HA-HA)
ข้าพเจ้าเคยนึกทบทวน
แล้วก็อนุมานว่า คำว่าปัญญาชนนั้นคงเป็นคำแปลมาจากภาษาอังกฤษ intellect
คำภาษาไทยที่ใช้เรียกคนประเภทเดียวกันน่าจะเป็นคำว่า นักปราชญ์ บันฑิต
หรือ สัตบุรุษ ซึ่งหมายถึงคนที่มีปัญญา และได้ใช้ปัญญานั้นยังประโยชน์ใ้ห้กับผู้อื่นด้วย
จึงได้รับการยกย่องว่าเป็น ปัญญาชน มิใช่ปนยาชัน
ยุึคสมัยนี้
ธรรมว่าด้วยการบูชาบุคคลที่ควรบูชาดูเหมือนจะเสื่อมความขลังลงไปไม่น้อย
ความสามารถในการแยกแยะความดีความเลวก็ดูเหมือนจะฟั่นเฟือน การให้คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ที่แท้ก็ถูกทำให้ัสับสน
เราจะมุ่งดีได้อย่างไร เมื่อมองเห็นแต่ข้อเสีย หรือไม่เห็นอะไรเลย
(HA)
|