1.พิพิธภัณฑ์แห่งชาติชาวนาไทย

เป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างจัดแสดงถึงวิวัฒนาการของชาวไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ชั้นบนจัดแสดงให้เห็นว่าพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชูชาวนา

และเป็นผู้พัฒนาการทำนา

2.วัดสุวรรณภูมิ(วัดใหม่)
ตรงข้ามศาลากลาง มีพิพิธภัณธ์สมเด็จพระสังฆราช ( ปุ่น ปุณณสิริมหาเถระ ) 

สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2541  มีวัตถุโบราณอยู่ประมาณ 4,000 ชิ้น

3.สวนเฉลิมภัทรราชินี

อยู่ใจกลางเมืองสุพรรณ  มีหอคอยบรรหาร-แจ่มใส  มีภาพจิตรกรรม

เรื่องราวทางประวัติศาสตร์มีร้านขายของที่ระลึก   จุดชมวิวรอบเมืองมีสวนน้ำ

และ ลานน้ำพุดนตรี

4.วัดพระรูป

มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่สวยงามองค์หนึ่งของประเทศไทย

และ พระพุทธบาทไม้ ซึ่งเป็นโบราณศิลปะวัตถุชิ้นเอกที่เรียกว่าหาค่ามิได้

ธรรมมาสน์สังเค็ดฝีมือช่างอยุธยาตอนปลาย

 

5.วัดประตูสาร


มีพระอุโบสถฐานสำเภาซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมช่างอยุธยา

ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ

ที่สวยงามมาก ฝีมือของนายคำ และ นายเทศ

6.กำแพงเมืองเก่าและประตูเมือง

สันนิษฐานว่าเป็นรัฐ "สุพรรณภูมิ" ปัจจุบันมีแนวกำแพงอิฐเหลือให้เห็นทางตอนใต้

และ คันดินตลอดแนวยาวกว่า 6 ก.ม. เป็นคูเมืองรูปวงเล็บปีกกา เพื่อป้องกันข้าศึกศัตรู

7. วัดป่าเลไลย์วรวิหาร

มี หลวงพ่อโต  ปางป่าเลไลย์ ซึ่งเป็นที่นับถือของประชาชนทั่วไป ภายในวัดมีบ้านขุนช้าง

เป็นเรือนไทยหลังใหญ่  สร้างตามบทวรรณคดีเรื่อง "ขุนช้าง ขุนแผน"

8. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

เป็นพุทธปฏิมากรรมสลักบนแผ่นหิน แบบนูนต่ำ เป็นศิลปแบบขอม

เป็นรูปพระวิษณุกรรมสวมหมวกแขก ศิลปไพรกเม็ง

อายุอยู่ราวปี พ.ศ. 1185-1250 หรือประมาณ  1300-1400 ปี

 

9.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง สันนิษฐานว่าพระปรางค์และเจดีย์สร้างในสมัยอู่ทองตอนปลาย

เดิมมีพระเครื่องพระบูชา แต่มีคนขโมยไป เหลือเพียงพระศอก พระพิมพ์ผงสุพรรณ อันเลื่องชื่อ

10.วัดแค

ถายในวัดมีพระพุทธบาททองเหลือง มีต้นมะขามยักษืขนาดใหญ่ ประมาณ 9 คนโอบ 

มีเรือนไทย ซึ่งเป็นคุ้มขุนแผนสร้างตามเสภาเรื่อง " ขุนช้าง ขุนแผน "

11.วัดหน่อพุทธางกูร

พระอุโบสถหลังเก่าของวัดมีภาพจิตรกรรมที่มีความงดงามมากเขียนในปี พ.ศ. 2391 

เป็นฝีมือของนายคำซึ่งเป็นช่างหลวงมาตามหาพี่น้องที่สุพรรณบุรี

12.วัดพระลอย

มีอุโบสถจตุรมุขใหญ่สูงเด่นสง่างาม มีพระพุทธรูปนวราชมงคลปางนาคปรก

ลอยน้ำมาติดอยู่บริเวณท่าน้ำของวัด บริเวณหน้าวัดมีฝูงปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

13.วัดพระนอน

มีพระพุทธรูปประทับนอนหงาย มีลักษณะคล้ายพระนอนที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย

หน้าวัดมีปลาอาศัยอยู่นับแสนตัว จนได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานมัจฉาวัดหระนอน

14.วัดสวนท่าเสด็จ

มีนกนานาชนิดอาศัยทำรังนับหมื่นตัว ตอนเย็นจะมีนกบินกลับรังแบบมืดฟ้ามัวดิน

15.แม่น้ำท่าจีน

ช่วงผ่านจังหวัดสุพรรณฯมีความยาวถึง 105 ก.ม. ปัจจุบันสองฟากฝั่งมีประชาชนอาศัย

อยู่อย่างเงียบสงบ โดยฌฉพาะบริเวณหน้าวัดริมแม่น้ำ ทำให้กลายเป้นแหล่งเพาะพันธุ์

ปลาธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และเรียกได้ว่าเป็น อุทยานมัจฉาที่ยาวที่สุดในประเทศไทย