สถานการณ์ไฟใต้ ที่เดือดระอุยืดเยื้อ มานานเกือบ 4 เดือน นับตั้งแต่ เหตุการณ์ปล้นปืน ค่ายทหารกองพัน พัฒนาที่ 4 จ.นราธิวาส และลอบวางเพลิงเผา โรงเรียน 20 แห่ง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ก็เกิดความ รุนแรงต่อเนื่อง มีการไล่เข่นฆ่า ผู้บริสุทธิ์ พร้อมสร้างสถานการณ์ ปั่นป่วน ไม่เว้นแต่ละวัน แล้วในที่สุด ก็มาถึงจุดแตกหัก นองเลือดครั้งใหญ่ เมื่อกลุ่มโจร ชั่วย่ามใจปฏิบัติการ จู่โจมบุกทำร้ายเจ้าหน้าที่อีกครั้ง พร้อมกันถึง 10 จุด ใน 3 จังหวัดคือ ยะลา ปัตตานี และสงขลา จนเกิดการปะทะกันดุเดือด ผลสุดท้ายฝ่ายโจรพลาดท่า ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตไปกว่าร้อยศพ

ดีเดย์ถล่มพร้อมตอนเช้าตรู่

ปฏิบัติการของกลุ่มโจรก่อการร้ายเริ่มขึ้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ได้มีกลุ่มคนร้ายกว่า 30 คน ใช้ปืนสงครามบุกยิงถล่มป้อมตำรวจกรือเซะ ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส หมู่ 3 ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี ขณะที่กำลังตำรวจคอมมานโด กองปราบปราม 4 นายเข้าเวรประจำป้อม ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ฝ่ายตำรวจได้ใช้ปืนประจำกายยิงตอบโต้ พร้อมวิทยุขอกำลังสนับสนุน ขณะนั้นกำลังตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานีและหน่วยคอมมานโด 7 นาย ที่ขับรถปิกอัพออกลาดตระเวนอยู่ใกล้เคียง เข้ามาปิดล้อมช่วยเหลือ จนเกิดการยิงปะทะกัน ปรากฏว่า ฝ่ายคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อ นายอับดุลเลาะ สือแม อายุ 50 ปีเศษ มือขวากำมีดดาบสปาร์ตาไว้แน่น ส่วนฝ่ายตำรวจถูกยิงเสียชีวิต 1 ศพ คือ ส.ต.อ.ชำนาญ อักษรเนียม ตำรวจคอมมานโด นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน เป็นตำรวจประจำป้อมกรือเซะ

ยึดมัสยิดเป็นฐานปักหลักสู้

ระหว่างนั้นกลุ่มโจรเห็นท่าไม่ดี ได้จุดไฟเผารถ จยย. ของตำรวจที่จอดไว้ข้างป้อม ไฟไหม้ลุกโชนไฟติดป้อมได้รับความเสียหาย ก่อนล่าถอยเข้าไปหลบซ่อนตัวในมัสยิดกรือเซะ ห่างจากป้อมที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ต่อมา พล.ต.ต.ธานี ทวิชศรี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ชัยพัฒน์ ธีรธำรง ผบ.ชุดควบคุม 9 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นายมานิต วัฒนเสน รอง ผวจ.ปัตตานี นายนิพนธ์ นาราพิทักษ์กุล นอภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุ นำกำลังหน่วยเฉพาะกิจตำรวจ-ทหาร และ อส. กว่า 500 นาย อาวุธหนักครบมือ กระจายกำลังปิดล้อมมัสยิดไว้ โดยกลุ่มโจรได้ยิงตอบโต้ออกมาเป็นระยะ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยิงสวนกลับไปเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

ทหารผู้พลีชีพ

1.จ.ส.อ.วิมล ดำคง สังกัด ร.15 พัน 3 ถูกยิงที่หน้าท้องและมือขวาถูกฟัน 2. พลฯไพรวัลย์ จันทรัตน์ ร.15 พัน 3 และ 3. ส.อ.วิกานต์ หอมคล้าย ร. 5 พัน 1 ถูกฟันที่ศีรษะ มือซ้าย เข่าซ้าย และนิ้วซ้ายถูกยิง

ส่งศพทหารกล้ากลับถิ่น

ที่สนามบินกองบินที่ 2 กองพลบินที่ 1 กรมยุทธทางอากาศ จ.ลพบุรี ได้มีพิธีรับศพ ส.อ.สามารถ กาบกลางดอน สังกัดกรมรบพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่ อ.เมืองปัตตานีและศพส่งมาบำเพ็ญกุศลที่วัดเสาธงทอง อ.เมืองลพบุรี โดยมี พล.ท.สนธิ บุญยรัตตกลิน ผบ.นสศ. เป็นประธาน ในพิธี ได้จัดแถวกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติ และมีข้าราชการ ทหาร นักการเมืองและประชาชนจำนวนมากมาร่วมงาน สำหรับการปูนบำเหน็จนั้น พล.ท.สนธิกล่าวว่า ได้เสนอปูนบำเหน็จให้ ส.อ.สามารถ 9 ขั้น และเงินทดแทนต่างๆอีกจำนวนหนึ่ง ขณะที่นายอภิรักษ์ ไทพัฒนกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่า กองทัพบกได้ทำประกันชีวิต ส.อ.สามารถไว้กับบริษัท โดยญาติจะได้สินไหมทดแทน 1.6 แสนบาท