เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อ วันที่ 16 เม.ย.1945 ที่ 50 ไมล์ เหนือขึ้นไปจากเกาะโอกินาวา อันเป็นป้อมปราการสำคัญของญี่ปุ่น นับแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นมาเหล่าทหารบกกองทัพที่ 10 โดยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากกองทัพเรือสหรัฐ ฯ ได้เริ่มโจมตีญี่ปุ่นในเกาะโอกินาวา การต่อต้านของญี่ปุ่นได้กระทำอย่างเหนียวแน่น จึงนับว่าว่าได้ทำการรบอย่างโชคเลือด ล้างผลาญกันอย่างย่อยยับ ยิ่งกว่าการรบแห่งใด ๆ โดยหากเกาะโกกินาวา ตกไปอยู่ในกำมือของฝ่ายศัตรู นั่นหมายถึงอเมริกาจะมีฐานทัพใกล้ญี่ปุ่นมากเพราะห่างแค่ 325 ไมล์เท่านั้น
การต่อสู้อย่างดุเดือดเลือดพล่าน แผ่ขยายไปทั่วทุกหนแห่ง เมื่อบ้านเมืองต้องถูกรุกราน ความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวของฝูงบินกามิกาเซ ซึ่งประกอบไปด้วยนักรบหนุ่มที่สมัครใจอุทิศชีวิตของตนในการโจมตีข้าศึก ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง นักบินหน่วยกามิกาเซจะต้องดำดิ่งเครื่องบินที่บรรทุกลูกระเบิดเต็มลำ พุ่งเข้าชนเรือรบ เรือลำเลียง และขบวนลำเลียงทางบกของสหรัฐ ด้วยการฆ่าตัวตายไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายสหรัฐนำรถแล่นผ่านมายังที่ซ่อนตัวบนเกาะโอกินาวา มีทหารญี่ปุ่นที่ใช้ยุทธวิธีฆ่าตัวตายแบบนี้ทั้งทางบก ในทะเลและในอากาศ มากมาย
กามิกาเซ เรือพิฆาตแลฟเฟย์ ซึ่งเป็นเรือที่มีอำนาจในการยิงสูงมาก มีระวางขับน้ำ 2,000 ตัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นยามคอยเหตุระยะไกลตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ในวันที่ 16 เม.ย. เครื่องกามิกเซ ระลอกแรกบินเข้ามาใกล้ ระยะ 17,000 หลา มีจำนวนไม่อาจนับได้ กำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเรือยังไม่ถูกโจมตีแต่คนในเรือก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กัปตันได้สั่งพลประจำปืนทำการยิง และได้สั่งให้ช่างกลเร่งเครื่องเต็มที่ ซึ่งเครื่องบินมาด้านข้างหน้าเรือเร็วมาก นับได้ถึง 156 ลำ แต่เขาตีเรือ 22 ลำ ปืนประจำเรือทุกกระบอกหันไปทาง กามิกาเซ เครื่องบินได้หลุดรอดในจำนวนนั้นหลุด มาได้จำนวน 2-3 ลำ ดำดิ่งลงสู่เรือพิฆาต แต่เรือก็พอวิ่งไปได้ ผลของการสูญเสีย ตาย 31 เจ็บ 73 นาย
กามิกาเซ เป็นการพลีชีพ คือ มึงตาย กูตาย ในปัจจุบันก็ยังมีใช้อยู่ เช่น ระเบิดพลีชีพ ซึ่งผูกติดตัวเองแล้วเข้าหาที่หมาย หรือขับรถบรรทุกระเบิดวิ่งเข้าหาสถานที่สำคัญ เป็นต้น
***************************
