ที่ลานพระราชวังดุสิต บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อเวลา 16.40
น. วันที่ 2 ธ.ค. ได้มีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์
เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
5 ธันวาคม โดยมีกำลังทหารรักษาพระองค์จำนวนทั้งสิ้น 13 กองพัน
ร่วมในพิธีถวายสัตย์ฯ มีพล.ต.จิรสิทธิ เกษะโกมล ผบ.พล.1 รอ. เป็นผู้บังคับการกองผสม
เวลา 17.10 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ทรงตรวจพลสวนสนามของเหล่าทหารรักษาพระองค์
โดยก่อนหน้านั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี
พระวรราชาทินัดดามาตุ และ ม.จ.หญิงสิริวัณวรี มหิดล เสด็จพระ ราชดำเนินร่วมในพิธีพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทหารสูงสุด เป็นตัวแทนนายทหารชั้นผู้ใหญ่และทหารรักษาพระองค์ทุกนาย
กราบบังคมทูลถวายพระพรและถวายสัตย์ปฏิญาณโดยสรุปว่า การสวนสนามของทหารรักษาพระองค์
เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในวันที่
5 ธันวาคมนี้ ในพระบรมราชวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าเหล่าทหารทั้งหลายขอพระราชทาน
พระบรมราชวโรกาส ถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจักพร้อมใจถวายชีวิตเป็นราชพลี
คงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพและจะรักษาอิสรภาพอธิปไตยของชาติไทย ให้พ้นจากภัยทั้งมวล
โดยจะมุ่งมั่นรวมใจสมัครสมานสามัคคี ยึดมั่นในผลประโยชน์ของแผ่นดิน
ปฏิบัติตามพระราโชบายและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทุกโครงการ
ตลอดจนเป็นที่พึ่งและสร้างความอยู่เย็นเป็นสุขแก่ประชาชนชาวไทย
เพื่อความวัฒนาสถาพรของประเทศชาติและราชบัลลังก์
ต่อมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทหารสูงสุดนำนายทหารชั้นผู้ใหญ่ประกอบด้วย
พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ทวีศักดิ์ โสมาภา ผบ.ทร.
และ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ผบ.ทอ. และเสนาธิการทุกเหล่าทัพ พร้อมทหารรักษาพระองค์ทุกนายกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนสรุปว่า
ข้าพระพุทธเจ้าจักยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์เจ้าข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี
และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้าจักเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ
เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจะปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการ
จากนั้นเป็นการยิงปืนใหญ่สลุตถวาย 21 นัด และปล่อยลูกโป่ง 7,200
ลูก พร้อมแพรถวายพระพรทรงพระเจริญ ภายในสนามเสือป่า กองดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
ภายหลังเสร็จสิ้นคำถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่บรรดานายทหารที่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน
ว่า ข้าพเจ้าและพระราชินียินดีมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารรักษาพระองค์
ซึ่งพร้อมกันมาประชุมในพิธีปฏิญาณตนสวนสนามครั้งนี้ ขอขอบใจในไมตรีจิตของทุกคนและขอสนองพรกับทั้งน้ำใจไมตรีนั้น
ด้วยใจจริงเช่นกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาทหารไทยนั้น นอกจากจะทำหน้าที่สู้รบป้องกันประเทศเพื่อธำรงรักษาเอกราชอธิปไตย
กับทั้งอิสรภาพของชาตินั้น ยังได้ทำหน้าที่พัฒนาบ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอีกด้วย
หน้าที่ประการหลังนี้ ต้องถือว่าเป็นเหมือนภารกิจหลักอย่างหนึ่งของทหาร
ทุกคนจะต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัดเหมือน กับการสู้รบ เพราะการพัฒนาให้บ้านเมืองเจริญมั่นคง
ให้ประชาชนมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดี มีความสามัคคีเป็นปึกแผ่นแข็งแกร่งนั้น
สามารถป้องกันระงับเงื่อนไข สงคราม การต่อสู้ภายใน เอาชนะความยากไร้และศึกศัตรูภายนอกได้ทั้งหมด
เมื่อบ้านเมืองรอดพ้นจากภัยทุกด้านและความทุกข์ยากแล้ว ย่อมจะมีเสถียรภาพและความผาสุก
ร่มเย็น เอกราชอธิปไตย กับทั้งอิสรภาพของชาติก็จะธำรงยืนยงตลอดไปด้วยความสวัสดี
จึงขอให้ทหารรักษาพระองค์ทุกคน ได้ตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น
ในอันจะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ โดยประโยชน์อันยั่งยืน ยิ่งใหญ่
มีความมั่นคงปลอดภัยของชาติและความวัฒนาผาสุกของประชาชน เป็นเป้าหมายสูงสุด
ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับอำนาจแห่งความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจแห่งชาติบ้านเมือง
จงดลบันดาลให้ทหารทุกคนประสบแต่ความสุข สวัสดี พร้อมทั้งความสำเร็จในสิ่งที่พึงประสงค์โดยทั่วกัน
จากนั้นผู้บังคับการกองผสมฯ สั่งกองผสมติดดาบเรียบอาวุธ จัดแถวสวนสนาม
วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชราชวัลลภ กระทั่งเวลา 19.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินกลับโดยรถยนต์พระที่นั่ง โดยมีผู้บังคับการกองผสมฯนำถวายพระพร
โดยมีนายทหารเปล่งเสียงทรงพระเจริญตาม 3 ครั้ง เช้าวันเดียวกัน
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังแผ่นดิน
ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล มีบรรดาคณะรัฐมนตรีและข้าราชการร่วมพิธีจำนวนมาก
เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้แสดงความจงรักภักดีและความมุ่งมั่นแน่วแน่
ที่จะเป็นข้าราชการที่ดีและเป็นพลังของแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่ตามรอยพระยุคลบาทในฐานะข้าฯของแผ่นดิน
เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศ และประชาชนถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณว่า
จะประพฤติปฏิบัติเป็นข้าราชการที่ดี ตามรอยพระยุคลบาท จะมุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน
และเสริมสร้างคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดิน โดยยึดหลักในคุณธรรมและความถูกต้องตลอดไป
ส่วนที่ท้องสนามหลวง ที่มีการจัดงาน "5 ธันวามหาราช"
วันที่ 2 ธ.ค. เป็นวันที่ 2 ช่วงเช้าได้มีพิธีอุปสมบทหมู่พระภิกษุ
76 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มี พล.ต.อ.สันต์
ศรุตานนท์ ผบ.ตร. เป็นประธานพิธีปลงผมนาค ส่วนช่วงเย็น พระพิศาลธรรมพาที
หรือพระพยอม ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว แสดงธรรมเทศนาสอนนาคทั้งหมด
นายปัญญา โชติเทวัญ ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ภาคเอกชน กล่าวว่า
ผู้ที่เข้าอุปสมบทครั้งนี้ผ่านการคัดเลือก จากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
และภาคเอกชน นายวิคม อินธ์ประเสริฐ เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังสินค้า
บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เข้าร่วมอุปสมบทในครั้งนี้กล่าวว่า
ปลาบปลื้มใจที่สุดที่ได้บวชถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภารกิจทหารพัฒนาบ้านเมืองเหมือนสู้รบ