อัญชลี จงคดีกิจ

"พี่ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหนก่อนที่จะรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน คือ ความอบอุ่นที่เข้ามาในใจอย่างบอกไม่ถูก มีความสุขใจเกิดขึ้นอย่างประหลาดมากเสียจนพี่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ตอนนั้นแม้ยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พี่มั่นใจในนาทีนั้นเลยว่า พี่ได้พบแล้ว พบผู้ที่จะช่วยพี่ได้แน่นอน"
พี่เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนทั้งหมด 5 คน มีนิสัยเหมือนเด็กผู้ชายและถูกตามใจเหมือนลูกคนเล็กๆ ทั่วไป ครอบครัวก็อบอุ่นกันมาด้วยดี จนพี่ไปเรียนเมืองนอกปีแรก ป๋ากับแม่ก็แยกทางกัน เมื่อเรียนจบกลับมาแล้ว พี่ก็ได้ทำงานอย่างที่เรียนมา แต่หากินโดยร้องเพลงที่โรงแรมซึ่งก็เคยร้องอยู่ก่อนไปเรียนเมืองนอก ตอนนั้นเริ่มมีชีวิตเป็นอิสระเต็มที่ เที่ยวไปทั้งกินและเที่ยว เจอะเจอคนมากหน้าหลายตา ภายหลังเมื่อเริ่มเข้าวงการก็ไปเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายละคร จนในที่สุดชีวิตก็พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อมีคนมาชวนทำอัลบั้มเพลง "หนึ่งเดียวคนนี้" และกลายเป็นความสำเร็จอย่างไม่เชื่อ ทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เด็กวัยรุ่นบางคนหลงใหลเลียนแบบทรงผม การแต่งตัว ตลอดไปถึงชีวิตในบางอย่าง เช่น การกินเหล้า สูบบุหรี่ มีเพื่อนผู้หญิงในเชิงชู้สาว เป็นต้น ใจก็ฟ้องและรู้ตัวว่าผิด ทั้งเป็นแบบอย่างไม่ดี แต่แก้ต่างให้กับตัวเองว่า มันชีวิตของฉัน คนอื่นก็ทำกันไม่มีใครมีสิทธิมาก้าวก่ายแล้วก็ทำต่อไป
เมื่ออัลบั้มชุดต่อ ๆ มาไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร พี่ก็เริ่มวิตกและในขณะเดียวกันพี่เริ่มมีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจมาก มันแปรปรวนและน่ากลัว เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่สะสมในร่างกายและความสัมพนันธ์ที่ผิดปกติก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวาย มันเริ่มกัดกร่อนความคิดจิตใจ จนกลายเป็นคนฉุนเฉียวง่ายหงุดหงิด นอนไม่หลับ สมองเบลอไปหมด พี่เริ่มคิดว่าจะมีใครหรืออะไรจะช่วยพี่ให้พ้นสภาพนครอย่างนี้สักที
ในขณะที่คิดว่าชีวิตกำลังดิ่งลงเหวนั้น วันหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่ไม่ได้พบกันมานานพอสมควรก็มาเยี่ยมบอกว่าเป็นคริสเตียนแล้วและมีข่าวดีมาบอกพี่ เขาเล่าเรื่องพระเยซูให้พี่ฟังและสิ่งที่พระเยซูได้ทำ ซึ่งมีผลทำให้เขาได้รับการยกโทษจากบาปกรรมต่างๆ ทั้งทำให้พบความหมายในชีวิต และสามารถสู้ต่อไปได้อย่างมั่นใจและมีความสุข เขาเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลายด้านที่ตั้งใจแต่ไม่เคยทำได้ แต่กำลังเกิดขึ้นอย่างมหัศจรรย์เมื่อเขาเชื่อวางใจในพระเยซู "พี่ฟังแล้วรู้สึกยินดีไปกับเขาด้วย แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับพี่เล่า"

เขาบอกว่า พระเยซูรักปุ๊และทำเพื่อปุ๊เหมือนกันคือ การตายบนไม้กางเขนเพื่อรับโทษความผิดบาปแทนปุ๊แล้ว และพระองค์ปรารถนาจะเข้ามามีส่วนในชีวิตเพื่อนำทางให้เดินไปอย่างถูกต้องเหมือนให้ชีวิตใหม่ที่มีความหวังแก่ปุ๊ พี่ฟังแล้วเหมือนเป็นข่าวดีจริงๆ เพราะลึกๆ ในใจพี่ต้องการคนที่ให้โอกาสพี่กลับใจใหม่ ให้ความหวัง ให้กำลังแก่พี่ในชีวิตที่วุ่นวายสับสนนี้ ถ้าพระเยซูทำได้พี่ก็ยอมจริงๆ เพื่อนคนนี้ได้บอกว่าเพียงแต่ปุ๊ยอมรับความจริงว่าเป็นคนผิดบาป และเชื่อด้วยความจริงใจว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าที่มาตายแทนบาปของปุ๊บนไม้กางเขน และเต็มใจที่จะเชิญพระเยซูเข้ามาในชีวิตและเชื่อฟังตลอดไป เท่านี้เองที่ปุ๊ต้องทำ
พี่ได้ตัดสินใจจะทำอย่างนั้นในคืนนั้นเมื่อเพื่อนกลับไปแล้ว และเมื่ออยู่คนเดียวในห้องนอน พี่ตัดสินใจแน่วแน่ อธิษฐานกับพระเยซูทั้ง ๆ ที่อธิษฐานยังไม่เป็น แต่ใจพี่ก็ร่ำร้องเรียกหาพระเยซูให้ช่วย "ถ้าพระองค์เป็นพระเจ้าจริงปุ๊ยอมทุกอย่าง" พี่ไม่รู้เวลาผ่านไปแค่ไหนก่อนที่จะรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน คือ ความอบอุ่นที่เข้ามาในใจอย่างบอกไม่ถูก มีความสุขใจเกิดขึ้นอย่างประหลาด มากเสียจนพี่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว รู้เพียงว่าเป็นการร้องไห้ที่มีความสุขมาก ความหนักอกหนักใจที่อัดอั้นมาเป็นเดือน ๆ หายไปไหนหมดไม่รู้ตอนนั้นแม้ยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พี่มั่นใจในนาทีนั้นเลยว่า พี่ได้พบแล้ว พบผู้ที่จะช่วยพี่ได้แน่นอน

ข้อมูลจากหนังสือ "Real Life Real Connections" ของ Campus Crusade for Christ