ประวัติโครงการหม่อนไหมสมเด็จ ฯ

ความเป็นมา
โครงการหม่อนไหม สมเด็จฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2514 โดยสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ก่อตั้งขึ้น เพื่อพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอหัวหิน และพื้นที่ใกล้เคียง ได้ใช้เป็นสถานศึกษาหาความรู้ในการประกอบอาชีพเกี่ยวกับการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม จากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน


แผนผังโครงการ
ที่ตั้ง
โครงการหม่อนไหม สมเด็จฯ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองสมอ หมู่ที่ 14 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ (เดิมเป็นหมู่บ้านหนองเหียง หมู่ที่ 7 มีการเปลี่ยนเขตการปกครองใหม่เมื่อ พ.ศ. 2541 มาเป็นหมู่บ้านหนองสมอ หมู่ที่ 14 ต.หินเหล็กไฟ) มีเนื้อที่ประมาณ 367 - 2 - 70 ไร่ ที่ดินที่จัดตั้งโครงการ ฯ เป็นที่ดินส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ในพื้นที่ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์
วัตถุประสงค์
    1. เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ยากจนให้มีที่ทำกิน
    2. เพื่อส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม
    3. เพื่อผลิตเส้นไหมใช้ในประเทศ และส่งออก ลดการนำเข้าเส้นไหมจากต่างประเทศ
    4. เป็นสถานที่ฝึกอบรมสำหรับผู้ที่สนใจการประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม
    5. เพื่อศึกษาทดลองและปรับปรุงพัฒนาการเลี้ยงไหมภายในประเทศ
การดำเนินการ
    พ.ศ. 2514
      -ก่อตั้งโครงการ ฯ ในพื้นที่ส่วนพระองค์ ฯ ซึ่งราษฎรในพื้นที่น้อมเกล้าถวายที่ดิน โดยมี พลเรือเอกนิรันดร์ ศิรินาวิน สมุหราชองครักษ์ เป็นผู้รับสนองงานโครงการ ฯ ต่อมามีราษฎรน้อมเกล้าถวายที่ดินและได้มีการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติม เพื่อขยายพื้นที่ในการดำเนินงานโครงการ ฯ
      - กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายนเรศวร จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าบุกเบิกพื้นที่ และเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ฯ
      - กรมชลประทาน ทำการขุดอ่างเก็บน้ำ ในระยะแรกจุน้ำได้ 75,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อมาทำการเสริมขอบอ่างอีก 2 ครั้ง จนสามารถจุน้ำได้ 120,000 ลูกบาศก์เมตร
      - แขวงการทางหัวหิน บุกเบิกถางถางพื้นที่และดำเนินการตัดถนนเข้าสู่โครงการฯ
      - กรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินการไถพรวน ปรับปรุงพื้นที่เพื่อเตรียมการปลูกหม่อน


    พ.ศ. 2516
      - เริ่มทำการปลูกหม่อนและศึกษาข้อมูลการเลี้ยงไหม และเริ่มทดลองเลี้ยงไหม ในระยะแรกพันธุ์ไหมที่เพาะเลี้ยงเป็นพันธุ์ลูกผสมต่างประเทศ (ลักษณะเส้นไหมสีขาว) และส่งผลผลิตรังไหมที่ได้จำหน่ายให้กับบริษัทเอกชน


    พ.ศ. 2517
      - เดือนกุมภาพันธ์ 2517 กรมการทหารช่างราชบุรี ดำเนินการก่อสร้างโรงเลี้ยงไหมวัยแก่ 7 โรง , บ้านพักคนงาน 7 หลัง , ที่ทำงานและที่พักเจ้าหน้าที่ 1 หลัง พร้อมทั้งสร้างหอถังน้ำ โรงสูบน้ำ และวางท่อน้ำแอสเนสตอร์ซีเมนต์ใต้ดิน ทั่วบริเวณไร่หม่อน ต่อมาได้สร้างโรงสาวเส้นไหม 1 หลัง โรงทำจ่อ 1 หลัง ทำการต่อเติมบ้านพักสมาชิกและที่พักเจ้าหน้าที่
      - กรมวิชาการเกษตร ได้สร้างโรงเลี้ยงไหมวัยอ่อน 1 หลัง


    พ.ศ. 2518
      - การเลี้ยงไหมเริ่มประสบผลสำเร็จ และได้เผยแพร่วิชาการไปยังศูนย์ไหมต่าง ๆ ทั่วประเทศ การเลี้ยงไหมภายในพื้นที่โครงการหม่อนไหม สมเด็จ ฯ เริ่มต้นจากสมาชิก 4 ครอบครัว และมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 7 ครอบครัว ประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ผลผลิตที่ได้ส่งจำหน่ายให้กับบริษัทจุลไหมไทย อ.วังชมภู จว.เพชรบูรณ์ ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อนำไปสาวเส้นไหม (เส้นไหมยืน) เนื่องจากในขณะนั้น โครงการฯ ยังไม่มีเครื่องมือและบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในการสาวเส้นไหม จึงดำเนินการได้แต่เพียงทำการเลี้ยงไหม และส่งรังไหมาจำหน่ายเท่านั้น นอกจากนี้ โครงการหม่อนไหม สมเด็จ ฯ ได้จัดทำจ่อไหมราคาถูกจำหน่ายให้กับศูนย์ไหม ฯ อื่น ๆ และผู้ที่สนใจ ปีละ 2 รุ่น เรื่อยมาจนถึง พ.ศ. 2541

การดำเนินการ พ.ศ. 2541 - ปัจจุบัน
    - ในปลายปี พ.ศ. 2541 พลเรือเอกนิรันดร์ ศิรินาวิน สมุหราชองครักษ์ ชราภาพมากแล้ว จึงได้ถวายงานโครงการฯ คืน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และได้พระ ราชทานให้ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ฑีขะระ รองราชเลขาส่วนพระองค์ ฯ และผู้อำนวยการกองศิลปาชีพในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นผู้รับสนองงานโครงการ ฯ ต่อจนถึงปัจจุบัน
    - ส่งเสริมให้สมาชิก 6 ครอบครัว ทำการปลูกหม่อน เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่
    - ส่งเสริมให้สมาชิก 6 ครอบครัว ทำการเลี้ยงไหมและสาวเส้นไหมปีละ 6 รุ่น ๆ ละ 2 กล่อง/ครอบครัว


    - มีพระราชดำริให้ดำเนินการจัดตั้งฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ ฯ แห่งที่ 9 ของประเทศขึ้นในพื้นที่โครงการหม่อนไหม สมเด็จ ฯ หลังจากได้ดำเนินการแล้วประสบผลสำเร็จในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สูงบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย จึงได้ขยายพื้นที่ดำเนินการในที่ดินส่วนพระองค์ ฯ ทั่วทุกภาคของประเทศ
    - ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ ฯ อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มดำเนินการประมาณเดือนพฤษภาคม 2543 โดยชุดเครื่องจักรกลจากศูนย์จัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หนองพลับ-กลัดหลวง ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เข้ามาดำเนินการบุกเบิกเปิดพื้นที่ ร่วมกับ นักเกษตรในพระองค์ ฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำโครงการ ฯ จาก มว.มชส.ร้อย 2 กก.สอ.ตชด. โดยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2543 เริ่มต้นปลูกส้มโชกุนในพื้นที่ ได้เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่

หน่วยงานรับผิดชอบ
    พ.ศ. 2514 - 2541
      - ผู้รับสนองงานโครงการ ฯ ได้แก่ พลเรือเอกนิรันดร์ ศิรินาวิน สมุหราชองครักษ์
      - กก.สอ.ตชด. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบและปฏิบัติระดับพื้นที่

    พ.ศ. 2541 - ปัจจุบัน
      - ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ฑีขะระ รองราชเลขาส่วนพระองค์ ฯ และ ผู้อำนวยการกองศิลปาชีพในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นผู้รับสนองงานโครงการ ฯ
      - คุณสหัส บุญญาวิวัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายกิจกรรมพิเศษฯ
      - กองบำรุงรักษาราชอุทยาน สำนักพระราชวัง
      - กองศิลปาชีพในพระบรมราชินูปถัมภ์
      - กก.สอ.ตชด. ค่ายนเรศวร
      - ศูนย์ขยายพันธุ์ไหมที่ 8 จังหวัดชุมพร
      - ส่วนราชการต่าง ๆ ในพื้นที่
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อสมาชิกโครงการหม่อนไหม สมเด็จฯ ทำให้
    - สมาชิกโครงการ ฯ 6 ครอบครัว มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
    - เป็นแหล่งสร้างงานสร้างรายได้ให้กับสมาชิกและประชาชนในพื้นที่ไกล้เคียงตลอดปี
    - เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ด้านการเกษตร และสถานที่ฝึกหัดอาชีพแก่ผู้ที่สนใจ และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพในพื้นที่ของตนเองได้