แก้ไขจำนวนเงินในสัญญากู้มากกว่าจำนวนที่กู้จริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
407/2542
สัญญากู้ยืมที่จำเลยลงลายมือชื่อกู้ยืมเงินโจทก์
30,000 บาท
เป็นหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ
ซึ่งจำเลยต้องรับผิด
แม้ภายหลังโจทก์แก้ไขจำนวนเงินในสัญญากู้ให้สูงขึ้นเป็น
60,000 บาท ก็ไม่ทำให้
หลักฐานการกู้ยืมเงินที่ทำไว้แต่เดิมและมีผลสมบูรณ์ต้องเสียไป
จำเลยต้องรับผิดเท่าที่กู้ไปจริง
ระบุจำนวนเงินในสัญญากู้มากกว่าจำนวนที่กู้จริง
นำสืบด้วยพยานบุคคลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
945/2542
สัญญากู้มีข้อความชัดเจนว่า
จำเลยทั้งสามกู้เงินไปจากโจทก์รวม
100,000 บาท
และรับเงินไปครบถ้วนแล้ว
ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2536
จำเลยทั้งสามนำพยานบุคคลเข้าสืบว่า
ความจริงทำสัญญากู้กันวันที่
8 พฤษภาคม 2536
โดยจำเลยที่ 1
เป็นคนกู้โจทก์คนเดียวจำนวน
40,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2
และที่ 3 เป็นเพียง
ผู้ค้ำประกันมิใช่ผู้กู้
เป็นการนำสืบถึงความไม่บริบูรณ์ของสัญญากู้ว่าจำเลยไม่ได้รับเงินเต็มจำนวนตามที่ระบุ
ในสัญญากู้
เพราะสัญญากู้เป็นสัญญายืมใช้สินเปลืองจะบริบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีการส่งมอบทรัพย์สินที่ยืมตาม
ป.พ.พ.ม.650 วรรคสอง
จึงหาใช่การนำสืบเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารสัญญากู้ตาม
ป.วิ.พ.ม.94(ข) ไม่
แต่เป็นการนำสืบถึงความไม่สมบูรณ์แห่งหนี้ตาม
ป.วิ.พ.ม.94 วรรคท้าย
(หมายเหตุ
คดีนี้ ศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์
และศาลฎีกา
พิพากษายกฟ้อง)
Thailegal
04/01/44
|