ข้อแนะนำการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร
(เฉพาะในเขต กทม.) |
สถานที่ติดต่อขออนุญาตก่อสร้างอาคาร
การยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้างอาคารในกรุงเทพ
ฯ สามารถยื่นขอได้ที่
1. ณ
ที่ว่าการเขตท้องที่ที่สถานที่ทำการก่อสร้างอาคารขึ้นอยู่โดยจะต้องเป็น
อาคารพักอาศัย อาคารตึกแถว
หอพัก แฟลต อาคาร
ชุด สำนักงาน โกดัง
ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม
ห้องแสดงสินค้า
อาคารพาณิชย์
ทั้งนี้เฉพาะที่สูงไม่เกิน
ภ ชั้น และอาคารเลี้ยงสัตว์
อาคารชั่วคราว สะพานไม้
เขื่อน หอถังเก็บน้ำ รั้ว
ป้าย แผงลอย และถนน
2. ณ กองควบคุมอาคาร
สำนักการโยธา อาคารสาธารณะ
อาคารพิเศษ
หรืออาคารอื่นใดนอกจากข้อ 1
เอกสารประกอบการขออนุญาตการก่อสร้างอาคาร
1.
คำร้องขออนุญาตก่อสร้างอาคารตามแบบฟอร์มที่ทางราชการกำหนด
2. แผนผังแบบก่อสร้างและรายการก่อสร้างอย่างละ
5 ชุด
3.
การก่อสร้างในที่ดินตนเอง
จะต้องมีภาพถ่ายโฉนดที่ดิน
ซึ่งเจ้าของที่ดินเป็นผู้รับรองภาพถ่ายถูกต้อง
4.
ถ้าก่อสร้างอาคารในที่ดินของบุคคลอื่น
จะต้องมีหลักฐานการยินยอมอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารจากเจ้าของที่ดินมาแสดง
โดยระ
บุขอบเขตของที่ดินที่ยินยอมให้ก่อสร้างอาคารตามหนังสือรับรอง
ให้ทำการก่อสร้างในที่ดิน
พร้อมด้วยสำเนาภาพถ่ายโฉนดที่ดิน
ซึ่งเจ้าของที่ดินเป็นผู้รับรองภาพถ่ายถูกต้อง
หรือใช้สัญญาเช่าที่ดินที่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
โดยสัญญาเข่ามีข้อความ
ระบุได้สาระสำคัญว่า "ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าก่อสร้างอาคารในที่ดินที่เช่า"
ซึ่งเจ้าของที่ดินหรือผู้เช่าเป็นผู้รับรองว่า
สัญญาเช่ายัง
คงมีผลผูกพันกันอยู่
พร้อมสำเนาภาพถ่ายโฉนดที่ดิน
|
และสารบาณการจดทะเบียนซึ่งพนักงานซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองถูกต้อง
5.
ถ้าเป็นอาคารที่อยู่ในข่ายควบคุม
ตาม พ.ร.บ
วิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
จะต้องมี
หนังสือรับรองตามแบบฟอร์มของ
กทม.
จากผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พร้อมภาพถ่ายใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ซึ่งวิศวกรรับรองภาพถ่ายถูกต้อง
6. ถ้าเป็นอาคารที่อยู่ในข่ายควบคุม
ตาม พ.ร.บ
วิชาชีพสถาปัตยกรรมจะต้องมี
หนังสือรับรองตามแบบฟอร์มของ
กทม.
จากผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม
พร้อมภาพถ่ายใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ซึ่งสถาปนิกรับรองภาพถ่ายถูกต้อง
|
7.
ในกรณีที่ผู้ยื่นขออนุญาตมิใช่เจ้าของอาคาร
ต้องมีหลักฐานการมอบอำนาจตามแบบฟอร์มของ
กทม.จากเจ้าของอาคาร และ
พร้อมปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
(5 บาท)
8. การขออนุญาตก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม
ให้ยื่นขออนุญาตในหลักการต่อกรมโรงงาน
กระทรวงอุตสาหกรรมก่อน
เมื่อกรม
โรงงานได้อนุญาตในหลักการแล้ว
จึงนำหลักฐานมาเพื่อประกอบการพิจารณาการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร
9.
ในกรณีอาคารที่อยู่ในข่ายต้องมีระบบกำจัดน้ำเสีย
เช่นตลาดสด หอพัก โรงงาน
โรงพยาบาล ภัตตาคาร
อาคารชุด และอาคารที่
เกี่ยวกับกิจการค้าอันเป็นที่น่ารังเกียจ
ให้ยื่นแบบ 5 ชุด
และรายการคำนวณการกำจัดน้ำเสีย
1 ชุด มาด้วย
10.
ในกรณีที่วิศวกรและสถาปนิกตามข้อ
6 และ 7
มิได้เป็นผู้ควบคุมงาน
ผู้ขออนุญาตจะต้องระบุชื่อผู้ควบคุมงานที่ถูกต้อง
ตาม
พ.ร.บ วิชาชีพวิศวกรรมและ
พ.ร.บ วิชาชีพสถาปัตยกรรม
พร้อมทั้งหนังสือรับรองตามแบบฟอร์มของ
กทม. จากวิศวกรหรือ
สถาปนิกผู้ควบคุมงานและภาพถ่ายใบอนุญาตถูกต้อง
ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
เรื่อง
ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.
2522
หมวด 3 แผนผัง แบบก่อสร้าง รายการประกอบแบบ และรายการคำนวณ
ข้อ 11 แผนผังให้ใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1 ใน 500 แสดงขอบเขตที่ดินบริเวณติดต่อ
และขอบนอกของอาคารที่มีอยู่แล้วกับ
อาคารที่ขอรับอนุญาตปลูกสร้างใหม่ ด้วยลักษณะเครื่องหมายต่างกันให้ชัดเจนพร้อมส่วนลาด
ข้อ 12 ในแผนผังให้แสดงทางสาธารณะที่ติดต่อกับที่ดินปลูกสร้างและทางระบายน้ำ
ออกจากอาคารที่จะปลูกสร้างจนถึงทางระ
บายน้ำสาธารณะ และตามแนวทางระบายน้ำนั้นให้แสดงเครื่องหมายชี้ทิศทางน้ำไหลพร้อมด้วยส่วนลาด
ข้อ 13 ในแผนผังให้แสดงระดับของพื้นชั้นล่างของอาคารและความสัมพันธ์กับระดับถนนสาธารณะหรือระดับพื้นดินที่ปลูกสร้าง
ข้อ 14 แบบก่อสร้างให้ใช้มาตรส่วนไม่เล็กกว่า 1 ใน 100 แสดงผังฐานรากอาคารผังพื้นชั้นต่าง ๆ ของอาคาร รูปด้าน
รูปตัด ทางขวางและรูปตัดทางยาวไม่ต่ำกว่าสองด้าน รูปรายละเอียดส่วนสำคัญขนาด
และเครื่องหมายแสดงวัตถุก่อสร้างอาคารชัดเจน
พอที่จะคิดรายการ และสอบรายการคำนวณได้แบบก่อสร้างแสดงรูปด้านและแผนพื้นชั้นต่าง ๆของอาคารโรงงานอุตสาหกรรม
จะใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1ใน 200 ก็ได้
ข้อ 15 แบบก่อสร้างอาคารพาณิชย์ อาคารสาธารณะ หรืออาคาร ที่ก่อสร้างด้วยวัตถุถาวรและวัตถุทนไฟเป็นส่วนใหญ่ให้แนบราย
การคำนวณกำลังของส่วนสำคัญต่าง ๆ ของอาคารไว้โดยครบถ้วนแบบก่อสร้างอาคารพิเศษนอกจากต้องปฎิบัติตามกฎหมาย
ที่มีข้อกำหนดควบคุมอยู่โดยเฉพาะแล้วให้แสดงรายการคำนวณโดยละเอียด
ข้อ 16
แบบก่อสร้างสำหรับต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารที่มีอยู่แล้วให้แสดงแบบของส่วนเก่าและส่วนที่จะต่อเติมหรือดัดแปลง
ให้ชัดเจนต่างกัน
ข้อ 17 อาคารชั่วคราวเพื่อประโยชน์ในการปลูกสร้างอาคารถาวร
หรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่นจะเสนอแบบก่อสร้างเป็นแบบสัง
เขปก็ได้ อาคารประเภทนี้ผู้ได้รับอนุญาตต้องรื้อถอนไปให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดอายุหนังสืออนุญาตนั้น ถ้ายังจำเป็นต้องใช้อยู่ต่อไป ให้ต่ออายุได้เป็นคราว ๆ
ไม่เกินคราวละหกเดือน
ข้อ 18 รายการก่อสร้างให้แสดงลักษณะของวัตถุก่อสร้างอันเป็นส่วนประกอบสำคัญของอาคารโดยละเอียดชัดเจน
ข้อ 19 มาตราส่วน ขนาด ระยะ น้ำหนักและหน่วยการคำนวณต่าง ๆ ของแผนผัง แบบก่อสร้าง รายการก่อสร้าง หรือรายการคำนวณนั้นให้ใช้มาตราเมตริก
ข้อ 20
แผนผัง แบบก่อสร้าง และรายการก่อสร้าง ให้ลงรายมือชื่อและแจ้งสำนักงานหรือที่อยู่ของผู้กำหนดแผนผัง
ออกแบบ
ก่อสร้าง ทำรายการก่อสร้าง และคิดรายการคำนวณไว้ด้วย หรือคุณวุฒิและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
การทำบุญขึ้นบ้านใหม่มีมานานตั้งแต่ครั้งพุทธกาล
โดยเอาคติจากวรรณคดีและความเชื่อเพื่อเป็นสิรมงคล
ในการ
ทำบุญขึ้นบ้านใหม่จะทำแบบพอเป็นพิธี
หรือเป็นพิธีใหญ่
มีทำบุญเลี้ยงพระก็ก็ได้
แล้วแต่ฐานะของผู้เป็นเจ้าของบ้าน
การทำแบบพอเป็นพิธีนั้น
เมื่อได้ฤกษ์ยามดีที่หาไว้หัวหน้าครอบครัวก็อัญเชิญพระประจำบ้าน
ไปประฐานไว้ที่บูชา
จุดธูปเทียนบูชา
อธิษฐานขอคุณพระคุ้มครองให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
หรือจะนิมนต์พระสักรูปหนึ่ง
มาประพรมน้ำพระพุทธ
มนต์ตามห้องต่าง ๆ
ก่อนขนของเข้าไปอยู่
ก็จะสมบรูณ์ยิ่งขึ้น
ส่วนการทำแบบมีเลี้ยงพระ
ก็ให้เจริญพระพุทธมนต์
แล้วถวายภัตตาหารหรือ
เพิ่มการตักบาตร
สำหรับการเตรียม
การก็เช่นเดียวกับการทำบุญอื่น
ๆ ทั่วไป เช่น
มีบาตรที่บรรจุทราย 1 บาตร
แป้งและน้ำหอมหรือน้ำอบ
นำมาตั้งที่บูชา
พิธีเริ่มเมื่อพระสงฆ์มาพร้อม
หัวหน้าครอบครัวจุดธูปเทียนรับศีล
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
หากมีตักบาตร เมื่อ
พระสงฆ์สวดถึงบท "พาหุ"ให้ตักบาตรแล้วถวายอาหาร
ถวายเครื่องไทยธรรม
กรวดน้ำ
ฟังพระสงฆ์อนุโมทนา
ต่อจากนั้นทุกคน
ในพิธีเจ้ารับพรมน้ำมนต์จากพระสงฆ์ผู้เป็นประธาน
ขณะนั้นพระสงฆ์อื่นจะเจริญมงคลคาถา
เสร็จแล้วให้ใครสัก 2 คน
ช่วยอุ้ม
บาตรน้ำมนต์
และบาตรทรายพร้อมแป้งกระแจะสำหรับเจิม
นำหน้าพระสงฆ์ 1 รูป
ไปพรมน้ำมนต์ตามห้องต่าง ๆ
ถ้ามีการเจิมประ
ตูบ้าน
ก็นิมนต์พระท่านให้ทำในโอกาสนี้ก่อนจะโปรยทรายรอบบริเวณพื้นบ้าน
ถือเป็นมงคลว่า
เป็นทรายเงิน ทรายทอง
ให้อยู่เย็น
เป็นสุข ขับไล่ภูตผีปีศาจ
ถือเป็นอันเสร็จพิธี...แล
สิทธิการิยะ
ถ้าแรกขึ้นบ้านใหม่ท่านให้ขึ้นในวันพุธ
วันพฤหัสและวันศุกร์
ดีนักแลและให้เป็นไปหรือละเว้นตาม
ทิศดังนี้
ขึ้นทิศบูรพา
ขึ้นทิศอาคเนย์
ขึ้นทิศทักษิณ
ขึ้นทิศหรดี
ขึ้นทิศปัจจิม
ขึ้นทิศพายัพ
ขึ้นทิศอุดร
ขึ้นทิศอีสาน |
ทิศตะวันออก
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ทิศใต้
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ทิศตะวันตก
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ทิศเหนือ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ |
จะเป็นความกัน
จะตายเร็ว
จะเสียของ
จะได้ลาภ
จะเจ็บไข้
จะสุขเหษมมีโชคดี
จะมีลูกมาก รักลูก
จะมีข้าวของมากมาย |
ปลูกวันอาทิตย์
ปลูกวันจันทร์
ปลูกวันอังคาร
ปลูกวันพุธ
ปลูกวันพฤหัสบดี
ปลูกวันศุกร์
ปลูกวันเสาร์ |
จะเกิดทุกข์อุบาทว์
ทำได้สองเดือนจะได้ผ้าผ่อนและสิ่งของ
ทำแล้วสามวันจะเจ็บไข้หรือไฟไหม้
จะได้ลาภและผ้าผ่อนอันดี
เกิดสุขสำราญทำแล้วห้าเดือนจะได้ลาภ
ความทุกข์สุขก่ำกึ่ง
หลังสามเดือนได้ลาภเล็กน้อย
จะเกิดพยาธิเลือดตกยามออก
ทำเสร็จแล้วสี่เดือนจะยากลำบาก |
การปลูกเรือนควรปรึกษาโหราจรรย์
หาวันเวลาที่เป็นสิริมงคล
ต้องจัดเตรียมเครื่องบูชาเสาไว้ให้พร้อม
ในวันที่ยกเสา
ให้เตรียมเสาไว้ให้พร้อมและกล่าวเซ่นไหว้
หรือขอซื้อจากเจ้าที่เจ้าทาง
หรือแม่พระธรณีเป็นพิธี
ตลอดจนบอกพระภูมิเจ้าที่เตรียม
เครื่องบัดพลี
มีต้นกล้วยไว้มัดเสาเอก
ซึ่งอาจต้องให้พระสงฆ์ผู้ทรงศีลแลชำนาญทางไสยศาสตร์
ลงยันต์นำแผ่ทอง
หรือผ้าแดง
มาผูกติดปลายเสา
สำหรับผู้ที่ผูกนั้นจะเลือกสีตามวันเกิดของเจ้าของบ้านก็ได้
ครั้นได้ฤกษ์ให้เจิมเสาประพรมน้ำมนต์แล้วเอายันต์
ปิดหัวเสา
พอได้เวลาก็ลั่นฆ้องตีกลองเคาะระฆัง
หรือจะโห่ 3 ลา
แล้วช่วยกันยกเสาตั้งตรง
ข้อสำคัญที่สุดนั้น
เสาเอกหรือเสาขวัญ
ต้องยกให้ตรงฤกษ์ที่หมอดูให้มา
ตามจารีตประเพณีมาแต่โบราณสืบกันมา
ดังพรรณามาฉะนี้แล
เดือนอ้าย
(ธ.ค)
เดือนยี่ (ม.ค)
เดือนสาม (ก.พ)
เดือนสี่ (มี.ค)
เดือนห้า (เม.ย)
เดือนหก (พ.ค)
เดือนเจ็ด (มิ.ย)
เดือนแปด (ก.ค)
เดือนเก้า (ส.ค)
เดือนสิบ (ก.ย)
เดือนสิบเอ็ด (ต.ค)
เดือนสิบสอง (พ.ย)
|
ได้เมื่อสมุทรโฆษถูกวิทยาธรฉกพระขรรค์
ทำการไม่ดี
ได้เมื่อพระรามเกิดทำการดี
ได้เมื่อพระรามกลืนยาพิษ
ทำการไม่ดีแล
ได้เมื่อพระสมุทรโฆษได้นางพินทุมดี
ทำการดี
ถึงกาลโจรฆ่าพราหณ์
ไม่ดีแน่
ตกพระเจ้าเสด็จอุบัติเหตุ
ทำการดีทุกวัน
พระนาราย์ปราบยักษ์
อย่าทำจะดีกว่า
ราพณาสูรต้องโมกขศักดิ์พระราม
ไม่ดี
ตกพระจันทร์กุมารเกิด
ทำการทุกอย่างดีนักแล
ตกได้เมื่ออภิเษกพระอินทร์
พักไว้ก่อนอย่าทำ
ได้เมื่อพระรามข้ามทะเล
ไม่ดีอย่าทำ
ได้เมื่อพระยาาจักรพรรดิเกิด
ทำการดีนักแล
|
- ห้ามมิให้ทำชื่อใหญ่กว่าหัวเสา
- ห้ามมิให้ทำแหวกช่องกลางที่นอน
- ห้ามมิให้ทำเรือนคร่อมต้นไม้
- ไม่ควรสร้างบ้านแบบศาลพระภูมิ
มี 2 ห้อง มีฝา 1 ห้องไม่มีฝา
1 ห้อง
- ไม่ควรสร้างบ้านมีระเบียง
4
ด้านเหมือนศาลาการเปรียญ
- ห้ามปลูกเรือนขวางตะวัน
- ห้ามปลูกเรือนขวางคลอง
- ห้ามทำเรือนมี
4 จั่ว
- เรือนหลังหนึ่งห้ามทำประตู
4 แห่ง หน้าต่าง 9 แห่ง
ประตูไม่อยู่กลางบ้าน
- จำนวนห้ามใช้จำนวนคู่
- บันไดไม่ลงทางทิศตะวันตก
- ไม่หันหัวเตียงทางทิศตะวันตก
- ไม่นอนขวางกระดาน
- ไม่ทำน้ำพุน้ำตกไหวเข้าตัวเรือน
- ไม่ทำทางลอดใต้ห้องน้ำห้องส้วม
- ไม่ทำอาคารพักอาศัยเป็นรูปตัว
" T "
- ไม่ทำเรือนทะลุหน้าตลอดหลัง
ถือเป็นเรือน "อกแตก"
- ไม่ทำภูเขาจำลองไว้ในบ้าน
- ไม่ทำทางเข้าออกคู่ไว้ตอนมุมของที่ดินที่ทางสามแพรกหรือสี่แยก
- ห้ามใช้ช่อฟ้า
ใบระกา เครื่องวัด
เครื่องหลวง
เป็นส่วนประกอบของบ้าน
- ห้ามปลูกเรือนคล่อมตอ
- ห้ามตั้งศาลพระภูมิใต้เรือนเงา
- ห้ามทำบันไดเวียนซ้ายขาขึ้น
- ห้ามมีสัตว์ตกตายในหลุมตอม่อ
|
การปลูกต้นไม้บริเวณบ้าน
ตามหลักโหราศาสตร์
สิทธิการิยะ
ผู้ใดจะสร้างบ้านให้อยู่เย็นเป็นมงคลกับตนเอง
ให้ปลูกต้นไม้ดังนี้
ทิศตะวันออก
ทิศตะวันออกเฉียงใต้
ทิศใต้
ทิศตะวันตกเฉียงใต้
ทิศตะวันตก
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ทิศเหนือ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ |
ปลูกไม้ไผ่หรือต้นกุ่มหรือต้นมะพร้าว
ปลูกต้นสารภีหรือต้นยอ
ปลูกต้นมะม่วงหรือต้นมะพลับ
ปลูกต้นพิกุล ราชพฤษ์
ขนุน สะเดา
ปลูกต้นมะขาม มะยม
ปลูกต้นมะกรูด
ปลูกต้นพุดทราหรือต้นหัวว่าน
ป,ุกต้นทุเรียนและขุดบ่อคงไว้ |
ไข้ร้ายมิพบพาน
กันจัญไรดีนัก
อายุยืนดี
กันโทษดีแท้
กันผีกันขึ้นความ
รูดผีสางนางไม้
กันอาคม มีมนต์คุณ
กันศตรูมีชัย |
ผู้ใดทำได้ดังนี้
คนจะเกรงขาม
ทรัพย์สินจะมาตาม
อยู่เย็นเป็นสุขสำราญดีนักแล
ต้นไม้ที่ห้ามปลูกไว้ในบริเวณบ้าน
ต้นโพธฺ์
ต้นไทร
ต้นตะเคียน
ต้นดอกทอง
ต้นยาง |
เพราะเป็นต้นไม้ประจำวัดวาอารามเท่านั้น
เพราะเป็นต้นไม้ใหญ่เกินไป
รากอาจเป็นอันตรายกับฐานบ้าน
เพราะเป็นต้นไม้ที่เชื่อว่าผีนางอายนางไม้สิงอยู่
เพราะเป็นลางร้าย
ทำให้คนในบ้านผิดประเวณีกัน
เพราะเป็นต้นไม้ที่คนโบราณนำไปทำหีบศพ |
ทั้งนี้ให้พิจารณาดูว่า
ต้นไม้หรือกอไม้ใดมีชื่อเรียกไม่เป็นมงคล
ก็ห้ามนำมาปลูก เช่น ต้นโศก
ต้นระกำ
ต้นหวาย กอไผ่รวก
ต้นจำปาจำปี เป็นต้น
|