|
วิธีอ่านสเกล
(scale) |
[<<] Prev
1
2 ( 3 )
|
ตามปกติ scale
จะประกอบไปด้วยมาตราส่วนย่อ
1 : 20 ,1 : 25 ,1 :
50 ,1 : 75 ,1 : 100 และ
1 :
200 และชุดพิเศษใช้สำหรับงานขนาดมาก
ซึ่งต้องย่อส่วนให้เล็กลงพอเขียนลงแผ่นกระดาษได้คือชุด
1 : 100
,1 : 200 ,1
: 250 ,1 : 300,
1 : 400 ,1 : 500 แต่ละชุดผู้ผลิตจะใช้สีเป็นตัวแบ่งเพื่อให้ง่ายต่อการแบ่ง
เช่น สีแดง สีดำ
สีเขียว
มีเทคนิคเล็ก
ๆ คือ
หากต้องการย่อส่วนขนาด 1 :
500 แต่บังเอิญมี scale
วัดชุดที่ไม่มีมาตรย่อส่วนนั้นก็อาจใช้มาตราส่วน
ย่อ 1 : 50 ในชุดที่มีอยู่
และคำนวณเพิ่มขึ้นอีก 10
เท่า คือ เมื่อจะกะขนาด 10
เมตรก็จะกะขนาดย่อส่วนจากมาตราส่วนย่อ
1: 50 เพียงขนาด
1 เมตร
ดังนี้แบบที่เขียนขึ้นด้วยระยะที่กะจากมาตราส่วนย่อ
1 : 50 ได้เช่นเดียวกัน
ในทางตรงกันข้ามเมื่อต้องการมาตราส่วนย่อที่น้อยลง
เช่น
ส่วนย่อ 1 : 20 แต่ไม่มี scale
วัดมาตราส่วนย่อในชุดนี้
ก็อาจใช้มาตราส่วนย่อในชุดที่มีมาตราส่วนย่อ
1 : 200 แล้วคิดลดลง 10 เท่า
แบบที่
เขียนขึ้นจากการลดส่วนย่อแล้ว
ก็จะกลายเป็นแบบที่ใช้มาตราส่วน
1 : 20 ได้
|
ภาพ
scale (A) |
1 : 1
ในบ้านเราใช้ 1 : 100
ส่วนระยะที่บอก 52.5 mm
เราก็จะอ่านว่า 52.5 m. |
|
1
: 10
ระยะที่บอก 320 mm
เราก็จะอ่านว่า 32
m m. |
ภาพ scale
(B) |
1 : 2 ในบ้านเราใช้ 1 : 200
ส่วนระยะที่บอก 118 mm
เราก็จะอ่านว่า 118 m. |
|
1
: 20
ระยะที่บอก 540 mm
เราก็จะอ่านว่า 54
cm.
|
ภาพ scale
(C) |
1 : 5
ในบ้านเราใช้ 1 : 500
ส่วนระยะที่บอก 335 mm
เราก็จะอ่านว่า 335 m. |
|
1
: 50
ระยะที่บอก 1.75
m.
เราก็จะอ่านว่า 1.75 m.
|
|
สรุปการอ่าน scale
แบบง่าย ๆ และเข้าใจว่าวัดได้เท่าใดก็อ่านอย่างนั้นเลยทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าคุณจะใช้มาตรา
ส่วนเท่าใด
เท่านี้เองครับไม่ยากใช่ไหม
แต่อธิบายแบบนี้ก็ดูง่ายหากลงมือวัดและอ่านจริงก็จะงงอยู่พักนึงและก็จะเข้าใจแบบ
ฝังลึกครับ
|
ข้อควรใช้ความระมัดระวังและความประณีตเป็นพิเศษในการต่อเส้นต่าง
ๆ โดยเฉพาะเส้นคนละเส้น
เช่น
เส้นตรงต่อกับเส้นโค้งหรือเส้นโค้งทางหนึ่งต่อกับเส้นโค้งอีกทางหนึ่ง
การเขียนเส้นต่อกันแต่ดูไม่ต่อกันนั้นมีผลทำให้อ่าน
ความหมายผิดไปได้ไกลพอใช้
Autocad
เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการเขียนแบบโดยตรง
ประกอบด้วยคำสั่งต่าง
ๆมากมายที่ใช้ในการสร้าง
เส้นสายในลักษณะต่าง ๆ
และยังมีคำสั่งที่ช่วยให้การเขียนแบบสะดวกขึ้น
เช่น grid (ตารางแบบกระดาษกราฟ)
การให้ค่าระยะหรือมุม
ที่เขียนโดยอัตโนมัติหรือแม้แต่การเขียนเส้นตั้งฉาก
เป็นต้น
ทั้งยังสามารถนำคำสั่งพื้นฐานต่าง
ๆ
เหล่านี้มาประกอบกันเป็นคำสั่งหรือขั้น
ตอนการทำงานของผู้ใช้แต่ละคนได้ต่อไป
ซึ่งจะทำให้การใช้งานมีความเหมาะสมกับรูปแบบการทำงานและสะดวกรวดเร็จเป็นอย่างมาก
แต่ในการเขียนแบบด้วยโปรแกรมนี้หรือโปรแกรมทางด้าน
CAD อื่น ๆ ก็ตาม
จะแตกต่างจากการเขียนแบบด้วยมือพอสมควร
ซึ่งสามารถ
จะชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในลักษณะใหญ่
ได้ 3 ประการด้วยกันคือ
1.
ลักษณะการมองเห็น
รูปที่ทำการเขียนด้วยโปรแกรมนี้จะมีลักษณะเหมือนการมองผ่านกล้องถ่ายภาพซึ่งถ้าเรามองในระยะ
ไกลก็จะเห็นภาพรวมทั้งหมดที่เราเขียน
แต่อาจจะมองไม่เห็นรายละเอียดโดยเฉพาะในรูปขนาดใหญ่
แต่ถ้าใช้เลนส์ซูมดึงรูปเข้ามาในระยะ
ใกล้ก็จะเห็นรายละเอียดชัดเจน
การเขียนรูปด้วยโปรแกรม
Autocad
ก็เช่นกันจะมีการเขียนรูปทางจอภาพเหมือนมองผ่านกล้องถ่ายภาพ
ดังที่กล่าวมาแล้ว
ในการทำงานจะต้องมีการขยาย
หรือที่เรียกว่าการ Zoom
เข้าไปดูหรือทำงานในรายละเอียดเป็นส่วน
ๆ ไป
2.
มาตราส่วนของการเขียน
ท่านที่ทำงานเขียนแบบย่อมเคยใช้ไม้บรรทัดที่มีสเกล
ต่าง ๆ
คงทราบว่าเวลาเราจะเขียนแบบ
ในมาตราส่วนใดก็ตามเราต้องใช้สเกลนั้นมาจับ
รูปที่เขียนจะอยู่สเกลที่เราต้องการ
แต่การเขียนด้วยโปรแกรม
cad นั้น อาจเรียกได้ว่าการ
เขียน full scal
เพราะการเขียนจะเขียนอยู่บนพื้นฐานของหน่วยวัดของโปรแกรม
เรียกว่า drawing unit
ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเราจะสมมุติให้เป็น
ระยะเท่าใดก็ได้ เช่น 1
เมตร 1 หลา 1ฟุต หรือแม้แต่ 1
กิโลเมตรก็ได้
3.
ตำแหน่งของรูปที่เขียนบนพื้นที่ที่จะเขียน
ในการเขียนแบบโดยปกตินั้นนอกจากเราจะต้องกำหนดมาตรส่วนขององค์
ประกอบภายในพื้นที่จะเขียนแล้ว
เราจำเป็นที่จะต้องวางตำแหน่งของแต่ละองค์ประกอบด้วยว่าแต่ละรูปที่เขียนขึ้นมาอยู่บริเวณใด
ของแผ่นงาน
ท่านที่ทำงานเขียนแบบคงพบว่า
บางครั้งตำแหน่งที่เราดาประมาณไว้ผิดพลาดไม่เหมาะสมก็มี
เช่น
อยู่ริมกระดาษเกินไปจนเขียน
ไม่พอ (ตกกระดาษ)
ในกรณีเช่นนี้จะต้องลบออกและเขียนใหม่กันเลยก็ว่าได้
ถ้างานเร่งหน่อยก็ใช้วิธีต่อกระดาษเอา
ปัญหาเหล่านี้บางท่านอาจ
เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
แต่เรื่องเหล่านี้จะมีผลต่องานเป็นอย่างมาก
ความถูกต้องของแบบนั้นเป็นเรื่องสำคัญแน่นอน
แต่เรื่องความสวยงาม
เป็นระเบียบของแบบที่ออกมาก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย
ปัญหาเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นเลยในการเขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์
เพราะเราสามารถย้ายตำแหน่งของรูปที่เราเขียนไปยังจุดใด
ๆ
ของแผ่นงานได้โดยง่าย
ไม่ว่าชิ้นงานนั้นจะละเอียดเพียงใดก็ตาม
ซึ่งก็หมายความว่าเราไม่จำเป็นที่เราจะต้องคาดประมาณตำแหน่งของวัตถุ
ที่จะเขียนอีกต่อไป
เราอาจจะเขียนรูปในจุดใด
ๆ ก็ได้
เมื่อเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยย้ายวัตถุนั้น
ๆ
ไปยังตำแหน่งที่ต้องการภายหลัง
โปรแกรม Autocad
มีการพัฒนาหลาย vertion
ด้วยกันและปัจจุบันมีใช้กันอยู่คือ
vertion 2000 นับได้ว่า Autocad
เป็นโปรแกรมที่มีการพัฒนาเป็นอย่างมาก |
สำหรับผู้เริ่มศึกษาโปรแกรม
Autocad
ผมขอแนะนำให้ศึกษาคำสั่ง Layer
ให้เข้าใจเพราะ Layer
จะมีประโยชน์
ในการลบอย่างเร็วในกรณีไม่ต้องการวัตถุนั้น
ๆ และอื่น ๆ อีกมาก Layer
จะเป็นตัวกำหนดสี ขนาด
ของเส้นที่ plot
ออกทางเครื่องพิมพ์
อีกด้วย
|