ULTRA Q Episode
รายละเอียดตอนต่างๆของ อุลตร้า Q โดยสังเขป


 

 ตอนที่ 1 Defeat Gomess / พิชิตโกเมส (ออกอากาศเมื่อ 2 มกราคม 1966)
มีการขุดพบถ้ำโบราณบริเวณก่อสร้าง June และ Yuriko จึงเข้าไปสืบสวนและค้นพบสัตว์ประหลาดโกเมสซึ่งตื่นจากการ
จำศีลมาเป็นเวลานาน ด้วยความหิว โกเมสได้ขึ้นมาที่พื้นผิวโลกเพื่อล่าสัตว์(และมนุษย์)เป็นอาหาร ในขณะเดียวกัน
 ไข่ลึกลับขนาดยักษ์ก็ได้ฟักออกมาเป็นตัวเป็นนกยักษ์ Litra สัตว์ประหลาดทั้งสองได้ต่อสู้กัน ในที่สุดโกเมสพ่ายแพ้ ถูก
Litra ฆ่าตายก่อนที่ Litra จะสิ้นลมบนร่างที่ไร้ชีวิตของโกเมส
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
โกเมส
สูง 10 เมตร หนัก 3 หมื่นตัน อยู่ในตระกูลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่พัฒนาให้ยืนบนขาหลังได้และพัฒนากงเล็บ
สำหรับขุด ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Gometeus
(แท้ที่จริงแล้ว ชุด Gomess เป็นชุดเดิมของ Godzilla นำมาปรับปรุงใหม่)
Litra สูง 5 เมตร หนัก 1 หมื่นตัน อยู่ในตระกูลสัตว์เลื้อยคลานบินได้ ปีกกว้าง 15 เมตร สามารถบินได้ด้วยความเร็ว 2 Mach
(หรือ 2 เท่าความเร็วเสียง) สามารถพ่นกรด
Critoniela acid ออกมาจากปากได้ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Litoralia


ตอนที่ 2 GOROH และ Goroh (ออกอากาศเมื่อ 9 มกราคม 1966)
ลิงยักษ์ได้ออกอาละวาดทำลายสะพานแขวน รถบรรทุกนมสด ตลอดจนสร้างความเสียหายอื่นๆอีกมากมายด้วยความซุกซน
 แต่เดิมมันเป็นเพียงลิงธรรมดาชื่อ โกโร่ แต่ได้กลายร่างเมื่อกินยาชนิดหนึ่งชื่อว่า Helypron Crystal G. เข้าไป ชายหนุ่มที่ชื่อ
โกโร่เช่นกัน พยายามที่จะเก็บซ่อนลิงยักษ์ตัวนี้เอาไว้ในป่า แต่ไม่สำเร็จ เพราะเจ้าลิงยักษ์ได้บุกเข้าไปในเมือง ในที่สุดมันก็ถูกจับ
และส่งไปยังเกาะที่มีลิงยักษ์อาศัยอยู่
ชื่อ GORIH and Goroh เป็นการเล่นตัวอักษรที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างเจ้าลิงยักษ์โกโร่ และชายหนุ่มที่ชื่อโกโร่ ในขณะที่ชื่อตอนในภาษาญี่ปุ่นเขียนชื่อลิงยักษ์เป็นตัวอักษร Katakana และชื่อของชายหนุ่มด้วยตัวอักษร Kanji
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
ลิงยักษ์โกโร่
สูง 50 เมตร หนัก 1 หมื่นตัน แข็งแรง และชอบกินนม


ตอนที่ 3 ของขวัญจากอวกาศ (ออกอากาศเมื่อ 16 มกราคม 1966)
Yuriko และ Jun ค้นพบจรวดไปดาวอังคารแบบไม่มีคนบังคับของญี่ปุ่น ซึ่งตกลงในมหาสมุทรในภารกิจที่ไม่ประสบความสำเร็จ
และขาดการติดต่อกับโลก มีเหตุลึกลับบางประการที่ว่าจรวดดังกล่าวไม่ได้ถูกโปรแกรมให้กลับมาสู่โลกจึงไม่เคยติดตั้งร่มชูชีพ
สำหรับร่อนลง ภายในจรวดพบภาพถ่ายที่ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นภาพอะไร ซึ่งถูกถ่ายโดยกล้องอัตโนมัติของจรวด นอกจากนี้
ยังพบวัตถุทรงกลมรูปไข่สีทอง 2 ลูก โจรกลุ่มหนึ่งได้ลักเอาลูกทรงกลมสีทองนั้นไป และทำตกไว้ลูกหนึ่งที่สำนักงานสายการบิน
Hoshikawa ซึ่งถูกพบโดย Ippei และมอบให้แก่ Yuriko เพื่อทำเป็นสร้อยคอ
พวกโจรได้นำลูกทรงกลมอีกลูกไปยังถ้ำที่ซ่อนตัวบนเกาะลึกลับแห่งหนึ่ง ณ ที่นั้นลูกทรงกลมสีทองได้ถูกน้ำร้อนและฟักออกมาเป็น
สัตว์ประหลาด Namegon ซึ่งโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และฆ่าโจรกลุ่มนั้นในที่สุด Namegon คือสัตว์ประหลาดที่ถูกบันทึกภาพไว้โดย
กล้องถ่ายภาพบนจรวดนั่นเอง
Ippei และ Yuriko เดินทางไปที่เกาะลึกลับนั้น และถูกตามล่าโดย Namegon แต่ในที่สุด Nomegon ก็ตกหน้าผาและละลายในน้ำทะเล
ศาสตราจารย์ Ichi มีทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ไข่ของ Namegon ถูกส่งมาโดยมนุษย์จากดาวอังคารเพื่อเตือนชาวโลกที่สำรวจอวกาศ
โดยไม่ไตร่ตรอง หวังเพียงเป็นผู้พิชิตอวกาศ วัตถุประสงค์ของการส่ง Namegon มาเป็นเพียงการเตือนเท่านั้น มันจึงถูกออกแบบให้
ละลายได้ในน้ำทะเล Ippei สงสัยว่า เผ่าพันธ์มนุษย์ ควรจะได้รับการยอมรับจากชาวต่างดาวหรือไม่ Yuriko กล่าวว่าตราบเท่าที่
มนุษย์ยังทำสงคราม แบ่งแยกเผ่าพันธ์ หรือยังมีการค้าทาสอยู่ เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าชาวต่งดาวจะยอมรับเผ่าพันธ์มนุษย์ได้หรือไม่
ต่อมา ขณะที่ Yuriko กำลังชงกาแฟ ความร้อนได้ทำให้ลูกทรงกลมสีทองอีกลูกที่เธอแขวนไว้เริ่มขยายตัวและมีทีท่าจะฟักออกมาเป็นตัว ทุกคนรู้ได้ทันทีว่านั่นคือไข่ของ Namegon อีกลูกหนึ่ง เธอตกใจ รีบขว้างมันทิ้งออกนอกหน้าต่าง…ในขณะที่มันกำลังเริ่มฟักเป็นตัว…..

เรื่องราวถูกทิ้งไว้เพียงเท่านี้ ผู้แต่งได้สรุปในตอนท้ายว่า เกลือจำนวนมหาศาลในทะเลของโลกเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาในเหตุการณ์ครั้งนี้
อย่างไรก็ดี ถ้านักการเมืองชาวโลกยังคงไม่ลดราวาศอกในการแข่งขันกันพิชิตอวกาศ มันอาจเกิดการตอบโต้ครั้งที่ 2 จากชาวดาวอังคาร …..และในครั้งนี้สัตว์ประหลาดอาจโตขึ้นและขยายร่างได้ในน้ำทะเล….
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
Namegon
(มาจากภาษาญี่ปุ่น Namekuji แปลว่า ทาก เนื่องจาก Namegon มีลักษณะคล้ายตัวหอยทากบนโลก) สูง 30 เมตร
หนัก 1 หมื่นตัน มีอาวุธคือแสงเลเซอร์จากดวงตา มีจุดอ่อนคือละลายในน้ำทะเล

(ผมชอบ Ultra Q ตอนนี้มาก เพราะสร้างพล็อตเรื่องได้ดีพอๆกับหนังฝรั่งเลยทีเดียว มีการหักมุมตอนจบและ
ให้แนวคิดถึงปัญหาบนโลกที่มีสาเหตุมาจากกิเลสของมนุษย์ในขณะนี้ Namegon เป็นเพียง “สัญลักษณ์” ที่สื่อให้เห็นผลกระทบในทางร้ายของการที่มนุษย์ตั้งหน้าตั้งตาเบียดเบียนธรรมชาติ ,แสวงหาประโยชน์โดย
ไม่คิดถึงความเดือดร้อนของคนอื่น หรือแข่งขันกันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในทุกๆด้าน เข้าใจว่าเรื่องนี้ญี่ปุ่นคงต้องการ
เหน็บแนมสหรัฐอเมริกาแบบลึกๆอยู่เหมือนกัน)


ตอนที่ 4 The Mammoth Flower (ออกอากาศเมื่อ 23 มกราคม 1966)
หลังจากเปลือกโลกเคลื่อนตัวใต้กรุงโตเกียว ได้ปรากฏรากต้นไม้ขนาดยักษ์โผล่ขึ้นมาโอบล้อรอบพระราชวังอิมพีเรียล และเคลื่อนตัวเข้าไปในตัวเมืองเพื่อจับผู้คนมาดูดเลือด ในขณะที่ลำต้นของมันก็งอกสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนจะผลิดอกออก
มาเป็นดอกไม้อสูรกายขนาดยักษ์ มนุษย์ได้พยายามใช้เครื่องพ่นไฟจัดการกับต้นไม้ยักษ์นี้ ในขณะที่ Jun
 พระเอกของเรื่องนำเครื่องบินขึ้นนำระเบิดกรดคาร์บอนิกไปทิ้งลงสู่ดอกไม้ยักษ์นั้นจนมันถูกกัดกร่อนและตายลง
The Mammoth Flower นี้แท้ที่จริงได้ถูกสร้างขึ้นเป็นตอนแรกสำหรับ Ultra Q ซึ่งในเบื้องแรกต้องการให้เป็นตอนแรกของ
Unbalance ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความ”ไม่สมดุล”ที่อาจเกิดขึ้นในดินแดนวิปริตที่กฎธรรมชาติเป็นไปในทาง
ตรงกันข้ามได้เป็นอย่างดี
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
Mammoth Flower
สูง 100 เมตร หนัก 3,000 ตัน สามารถพ่นละอองเกสรที่เป็นพิษออกมาได้ และใช้รากในการดูดเลือด
จากมนุษย์เป็นอาหาร
(สัตว์ยักษ์และต้นไม้ยักษ์ ถือเป็นพลอตเรื่องยอดนิยมของภาพยนต์ในยุค’60 ดังจะเห็นได้จากภาพยนต์จากโลกตะวันตก
มากมายที่ใช้แนวคิดนี้ในการสร้าง เช่น คิงคอง และภาพยนต์ขาวดำหลายเรื่อง)


ตอนที่ 5 Peguila มาแล้ว (ออกอากาศเมื่อ 30 มกราคม 1966)
ชายชื่อโนมูระ หายสาปสูญไปอย่างแปลกประหลาดจากสถานีของญี่ปุ่นประจำแอนตาร์คติค Jun ได้เข้ามาสืบสวนเกี่ยวกับการหายตัวครั้งนี้และพบสมุดบันทึกของโนมูระ ซึ่งเขียนเอาไว้ว่า “Peguila มาอีกแล้ว” ในขณะนั้นยานพาหนะฝ่าน้ำแข็งก็ถูกจับโยนขึ้นบนท้องฟ้า เมื่อ Jun ออกมาสืบสวนหาข้อเท็จจริงก็พบว่า Peguila
ได้ปรากฎตัวขึ้น
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
Peguila
สูง 40 เมตร หนัก 20,000 ตัน สามารถทำให้วัตถุเยือกแข็งได้ด้วยลมหายใจที่เย็นถึง –130 องศาเซลเซียส
มีความสามารถต่อต้านแรงโน้มถ่วงของโลก เวลาบินจะพ่นควันออกมา มีจุดอ่อนคือแพ้สารที่ชื่อว่า Pegimin H ซึ่ง
สกัดมาจากพืชตระกูลมอสที่ขึ้นในแอนตาร์คติค
เนื้อเรื่อง
ในตอนที่ 5 จะจบลงเพียงเท่านี้ แต่ Peguila จะกลับมาอีกครั้งเป็นภาคต่อในตอนที่ 14


ตอนที่ 6 เต่าน้อยจงโตขึ้น (ออกอากาศเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 1966)
Ultra Q ตอนที่ 6 นี้มีพื้นฐานมาจากนิยายปรำปราของญี่ปุ่นเรื่อง Urashima Taroh
ทาโร่ อุราชิมา เป็นเด็กชายที่เชื่ออย่างแรงกล้าว่าถ้าเขาสามารถเลี้ยงเต่าให้มีขนาดยาว 99 เซ็นติเมตรได้แล้ว
มันจะพาเขาไปยังปราสาทใต้ทะเลลึกในนิยายได้ และเมื่อเต้าที่เขาเลี้ยงโตขึ้นในทันใดจนมีขนาดยักษ์ ทาโร่ก็ได้ไต่ขึ้นไปบนหลังเต่าซึ่งพาเขาไปยังปราสาทใต้ทะเลลึกได้ในที่สุด เขาได้พบกับเจ้าหญิงแห่งท้องทะเล ด้วยผลของการที่เขาเป็นคนที่ชอบโกหกทำให้ถูกเจ้าหญิงลงโทษและบังคับว่าเขาจะต้องไม่โกหกใครอีก เจ้าหญิงแห่งท้องทะเลมอบกล่องให้เขาใบหนึ่งก่อนจะกลับและกำชับว่าห้ามเปิดออกจนกว่าเขาจะอยู่ใน
สถานการณ์ที่คับขัน ก่อนจะหายตัวไป
เป็น Ultra Q ตอนแรกที่ตัวเอกของเรื่องไม่ได้ปรากฏให้เห็นเลย
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
เต่ายักษ์
มีขนาด 99 เซนติเมตร หนัก 1 ตัน ถูกเลี้ยงดูโดยทาโร่ สามารถเดินทางไปยังปราสาทใต้ทะเลลึก
ดำน้ำลึก ผ่านกำแพง หรือทะลุมิติได้ สามารถบินได้ด้วยความเร็ว 3 เท่าเสียง
เจ้าหญิงโอโตฮิเมะ เป็นเจ้าหญิงแห่งปราสาทใต้ทะเลลึก รอคอยการมาถึงของทาโร่ (โดยในเรื่องไม่
ได้ระบุถึงสาเหตุ) เกลียดการโกหก
มังกรยักษ์ อาศัยในปราสาทใต้ท้องทะเลลึก ทำหน้าที่เป็นองครักษ์ของเจ้าหญิง สามารถพ่นแสงเลเซอร์ออกมา
จากปากเพื่อให้บทเรียนแก่ทาโร่ในการเป็นคนชอบโกหก


ตอนที่ 7 สัญญาณขอความช่วยเหลือจากภูเขาไฟฟูจิ (ออกอากาศเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 1966)
หินก้อนใหญ่หลายก้อนได้โผล่ขึ้นมาอย่าลึกลับจากทะเลสาบทั้ง 5 ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ และกีดขวางเส้นทางจราจร
จึงจะถูกระเบิดทิ้งด้วยไดนาไมต์ และในคืนนั้นเองก้อนหินเหล่านั้นก็เข้ามารวมตัวกันเป็นอสุรกายหินออกอาละวาด
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
อสุรกายหิน
สูง 30 เมตร หนัก 10,000 ตัน เกิดจากการจับตัวกันของก้อนหินใหญ่จากทะเลสาบใกล้ภูเขาไฟฟูจิ
 ออกอาละวาดทำอันตรายต่อผู้คนและบ้านเรือน ทนทานต่ออาวุธมีคมและลูกปืน


ตอนที่ 8 น้ำผึ้งมฤตยู (ออกอากาศเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 1966)
หลังจากกินตัวอ่อนของผึ้งซึ่งเลี้ยงโดสารเร่งความเจริญเติบโต “Lajelly B-1” เจ้าตัวตุ่นได้ขยายร่างขึ้นเป็นขนาดยักษ์
ตุ่นยักษ์สร้างความเสียหายให้กับฟาร์ม ไร่ปศุสัตว์ และภูเขาในบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก เมื่อถูกโจมตีก็จะดำลงไปในดินลึกและพบจุดจบเมื่อขุดลงไปจนตกลงในธารลาวา
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
ตุ่นยักษ์
ยาว 50 เมตร หนัก 20,000 ตัน เป็นตัวตุ่นที่กินสารเร่งความเจริญเติบโต Lajelly B-1 เข้าไป มีจุดอ่อนคือ
ทนแสงแดดไม่ได้


ตอนที่ 9 แมงมุมบารอน (ออกอากาศเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 1966)
Jun และพรรคพวกหลงทางในม่านหมอกขณะเดินทางกลับจากปาร์ตี้ จนไปพบคฤหาสน์ลึกลับหลังหนึ่งที่กลางบึง
ซึ่งดูเหมือนจะถูกทอดทิ้งมาหลายทศวรรษ พวกเขาตกลงใจจะพักค้างคืนที่นั่น แต่ก็ต้องพบกับแมงมุมยักษ์ 2 ตัว ซึ่งเชื่อกันว่าแท้ที่จริงปลงร่างมาจากบารอนแมงมุมและบุตรสาว พวกเขาใช้มีดฆ่าแมงมุมตัวหนึ่งได้ ส่วนอีกตัวถูกรถยนต์ทับ
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
แมงมุมยักษ์ สูง 2.5 เมตร หนัก 120 กิโลกรัม ใช้พิษ เส้นใย และกงเล็บในการดักนักเดินทางที่ผ่านมา


ตอนที่ 10 รถด่วนใต้ดินสู่ตะวันตก (ออกอากาศเมื่อ 5 มีนาคม 1966)

เส้นทางด่วนพิเศษใต้ดิน “สายฟ้าแลบ” เป็นเส้นทารถไฟด่วนจากโตเกียวไปโอซาก้าและคิวชูภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง ขบวนรถมูลค่ากว่า 807 ล้านเยนได้รับการควบคุมจากสมองอิเล็คโทรนิค (JFOME) ทำให้เคลื่อนที่ได้เร็วถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Ippei ได้ลอบขึ้นไปบนขบวนรถเที่ยวทดลองโดยทำทีว่าเป็นช่างภาพ ในขณะนั้นสิ่งมีชีวิตจำลอง ชื่อว่า #M-1 ได้ขึ้นมาบนรถด่วนด้วย และ
ได้ทำลายสมองกล JFOME จนรถไฟด่วนเที่ยวนั้นระเบิด ก่อนที่ #M-1 จะบินสู่ห้วงอวกาศ
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
#M-1
สิ่งมีชีวิตจำลองตัวแรก ถูกสร้างโดยศาสตราจารย์อาอิกาว่า โดยปกติจะถูกเก็บรักษาไว้ในรูปแบบของวุ้นในหลอดแก้วความกดดันสูง แต่ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจนเกิดการแบ่งเซลขึ้น


ตอนที่ 11 Ballonga (ออกอากาศเมื่อ 12 มีนาคม 1966)

สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายบอลลูนได้เกาะติดกับจรวดสำรวจดาวเสาร์มายังโลก Balloonga ดูดซึมพลังงานและเพิ่มขนาดตนเอง หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการดูดซึมพลังงานจากแหล่งพลังงานอันน้อยนิดของโลก ในที่สุดมันก็ถูกล่อโดยดวงอาทิตย์เทียมให้จากโลกไปสู่ห้วงอวกาศ
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
Balloonga
ขนาดขึ้นอยู่กับพลังงานที่ได้รับ สามารถดูดพลังงานได้จากทุกสิ่ง ทั้งไฟฟ้า ระเบิดนิวเคลียร์ หรือพายุไต้ฝุ่น


ตอนที่ 12 ผมเห็นนก (ออกอากาศเมื่อ 19 มีนาคม 1966)
นกตัวน้อยที่ถูกขังอยู่ในเรือโบราณเมื่อ 1,000 ปีก่อน ได้เดินทางมายังปัจจุบันผ่านทางมิติที่ 4 ทำให้มันสามารถขยายขนาดขึ้นเป็นนกยักษ์ออกอาละวาดเมื่อต้องการหาอาหาร แต่ในที่สุดได้กลับมาเป็นมิตรกับเด็กชายคนหนึ่ง ก่อนจะบินจากไปพร้อมความฝันของเด็กชาย
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
อสุรกายนกโบราณ Larugeus
สูง 43 เมตร หนัก 15,000 ตัน อยู่ในตระกูลนกดึกดำบรรพ์ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งที่ 3
สามารถใช้ปีกที่กางแล้วยาวกว่า 100เมตรสร้างกระแสลมแรงขึ้นทำลายสิ่งต่างๆได้ โดยปกติอยู่ในรูปของนกตัวเล็กๆ


ตอนที่ 13 Garadama (ออกอากาศเมื่อ 26 มีนาคม 1966)
เด็กชายได้เก็บอุกาบาตขนาดเล็กได้ที่เขื่อนในยูมิกาตานิ เขตกันมา อุกาบาตดังกล่าวถูกสร้างด้วยสารปะกอบที่เรียกว่า Tilsonite
ในเวลาต่อมาอุกาบาตลูกใหญ่ที่เรียกกันว่า Garadama ได้ตกลงบนพื้นโลก และสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งได้ปรากฏกายขึ้นมา มันถูกควบคุมระยะไกลโดยคลื่นไฟฟ้าจากอุกาบาตลูกเล็กที่เด็กชายเก็บได้ ในที่สุดหลังจากอาละวาดจนเขื่อนถูกทำลาย สัตว์ประหลาดก็หยุดการเคลื่อนไหวเมื่อคลื่นไฟฟ้าจากอุกาบาตก้อนเล็กถูกทำลายลง
เหตุการณ์ต่อจากนี้ปรากฏใน Ultra Q ตอนที่ 16
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
อสุรกาย Garadama
สูง 40 เมตร หนัก 60,000 คัน เป็นหุ่นยนต์รุกรานที่แข็งแกร่ง สามารถทำลายเขื่อนกั้นน้ำได้


ตอนที่ 14 ยุคน้ำแข็งที่โตเกียว (ออกอากาศเมื่อ 3 เมษายน 1966)
จากตอนที่ 5 ในระหว่างที่อพยพย้ายถิ่นฐานจากขั้วโลกใต้ไปยังขั้นโลกเหนือ Peguila ได้บุกเข้ามาที่โตเกียวในช่วงหน้าร้อนพร้อมกับเมฆยักษ์สีดำ มันเริ่มจู่โจมที่ท่าอากาศยานนานาชาติ โดยการลมหายใจที่เย็นยะเยือกทำให้ยุคน้ำแข็งมาเยือนโตเกียวอีกครั้ง
พระเอกของเรื่องจึงต้องนำเครื่องบิน Cessna เดินทางไปยังเทือกเขาสูงของญี่ปุ่นเพื่อเสาะหา Pegimin H มาปราบ Peguila
รายละเอียดของสัตว์ประหลาด ได้กล่าวถึงแล้วในตอนที่ 5
(ชุด Peguila ได้ถูกนำมา recycle อีกครั้งเป็นสัตว์ประหลาด Chandle ในอุลตร้าแมนภาคแรก)


ตอนที่ 15 รังไหมของคาเนกอน (ออกอากาศเมื่อ 10 เมษายน 1966)
คาเนโอะ คาเนดา เป็นเด็กไม่ดีที่สนใจแต่เรื่องเงินทอง เขาจะไม่ช่วยทำงานบ้านหากไม่ได้ค่าตอบแทน วันหนึ่งเพื่อนของเขาชื่อ อากิระ ค้นพบรังไหมประหลาด เมื่อหยอดเหรียญ 30 เยนลงไปแล้วเขย่า จะมีเสียงเกิดขึ้น ด้วยความคิดที่จะใช้มันหาเงิน คาเนโอะจึงนำรังไหมนั้นกลับบ้าน รังไหมนั้นได้ขยายใหญ่ขึ้นและดูดเงินเหรียญเข้าไปในตัวเอง และในที่สุดก็ดูดเอาคาเนโอะเข้าไปด้วย ในวันรุ่งขึ้น คาเนโอะก็ได้ปรากฎร่างเป็นสัตว์ประหลาดคาเนกอนที่กินเหรียญเงินเป็นอาหาร ในที่สุดเมื่อหาเงินเหรียญเป็นอาหารได้ไม่เพียงพอ คาเนกอนก็ตัดสอนใจปล้นธนาคาร
,Ultra Q ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นผลงานชั้นยอดเลยทีเดียว และเป็นอีกตอนหนึ่งที่ตัวเอกของเรื่องไม่ได้ปรากฏตัวเลยเช่นกัน
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
อสุรกายกินเหรียญ - คาเนกอน
สูง 2 เมตร หนัก 200 กิโลกรัม ต้องกินเหรียญเงินเป็นอาหารอย่างน้อย 3,520 เยนต่อวัน และจะตายหากตัวเลขที่อกด้านซ้ายตีกลับเหลือเพียงเลขศูนย์ ส่วนหัวมีลักษณะคล้ายกระเป๋าใส่เหรียญเงิน และปากจะกว้างมีลักษณะเป็นซิป


ตอนที่ 16 การจู่โจมของ Garamon (ออกอากาศเมื่อ 18 เมษายน 1966)
เป็นตอนต่อจากตอนที่ 13 มีชายคนหนึ่งขโมยเอาอุกาบาตลูกเล็กไปจากสถานที่เก็บรักษาที่มหาวิทยาลัยตะวันออกเฉียงใต้ และเริ่มส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าออกมายังอสุรกาย Garadama ให้ออกไปอละวาดในโตเกียวอีกครั้ง
Jun และพรรคพวก ติดตามคนร้ายที่ขโมยอุกาบาตก้อนเล็กไปเพื่อพยายามปิดคลื่นไฟฟ้าที่ส่งออกมาบังคับ Garamon และทำให้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วชายคนที่ขโมยอุกาบาต คือ มนุษย์ดาว Q หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Cicada man ซึ่งแปลงตัวมาเพื่อบุกโลก
 เมื่อแผนการของมันล้มเหลว มันจึงหนีกลับไปยังยานแม่ที่จอดอยู่ในอวกาศ แต่ก็ถูกลงโทษโดยการเผาเป็นจุลสำหรับภารกิจอันล้มเหลวของมัน
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
อสุรกาย Garadama
สูง 40 เมตร หนัก 60,000 ตัน สามารถปล่อยคลื่นออกมาขัดขวางระบบการสื่อสารโทรคมนาคมได้
มนุษย์ดาว Q หรือ Cicada man สูง 1.8 เมตร หนัก 150 กิโลกรัม ถือได้ว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวตัวแรกที่ปรากฏในภาพยนต์ชุด Ultra Q
 ถึงแม้ว่าจะเคยมีการกล่าวอ้างถึงมนุษย์ต่างดาวอื่นๆในอดีตก็ตาม Cicada man ไม่มีความเกี่ยวพันอะไรแม้แต่น้อยกับมนุษย์ดาว Baltan คู่ปรับตัวสำคัญของเหล่าอุลตร้าแมน แต่ชุดของ Cicada man ก็ถูกนำไปรีไซเคิลเพื่อ
ใช้เป็นมนุษย์ดาวBaltan ในภาพยนต์ชุดอุลตร้าแมน (ในตอนที่ 2)


ตอนที่ 17 โครงการย่อส่วน (ออกอากาศเมื่อ 24 เมษายน 1966)
ยูริโกะตรวจสอบโครงการ 1/8 เพื่อทำข่าว แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า โครงการมีแผนการที่จะแก้ไขปัญหาการเพิ่มของประชากร
และการจำกัดที่ทำกินโดยการย่อส่วนมนุษย์ลงให้เหลือเพียง 1/8 ยูริโกะได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมในการทดลอง ซึ่งเธอได้ตอบ
ปฏิเสธ เพราะไม่เห็นด้วยกับแผนการที่น่ากลัวนี้ แต่โชคร้ายที่เธอได้เกิดเป็นลมไปท่ามกลางความแออัดของฝูงชน
เมื่อเธอฟื้นขึ้นมา ก็พบว่าตนเองถูกย่อขนาดเหลือเพียง 1/8 อาศัยอยู่ในเมืองย่อส่วน เธอได้รับชื่อใหม่ว่า “103924 พี” อย่างไรก็ดีเนื่องจากเธอเข้ามา
ในเมืองนี้โดยไม่มีพาสปอร์ตและไม่ได้กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง เธอจึงถูกกักตัวโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง(ที่มีขนาดปกติ)

นักโทษอีกคนหนึ่ง(ที่มีขนาดปกติ) ช่วยยูริโกะให้พ้นหลบหนีได้สำเร็จ เธอเดินทางไปพบจุนและอิปเปที่สนามบินโฮชิกาว่า
แต่พบว่าทั้งคู่คิดว่าเธอตายไปแล้ว เธอพยายามโทรศัพท์ไปหา แต่ทั้งคู่ไม่เชื่อ ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจที่จะกลับไปยังเมืองย่อส่วน
 โดยทิ้งจดหมายลาเอาไว้

ในที่สุดจุนและอิปเปก็พบจดหมายและพยายามตามหาเธอจนพบ ยูริโกะขร้องให้ทั้งคู่กลับไปและลืมเธอเสีย เพราะเธอไม่ใช่
ยูริโกะคนเดิมแล้ว ก่อนจะวิ่งหนีไปและเป็นลมล้มลง

เมื่อยูริโกะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พบว่าตนเองอยู่บนเตียง มีจุนและอิปเปที่มีขนาดเท่ากับเธออยู่ข้างๆ แพทย์บอกว่าเธอได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อยจากการตกบันไดที่สถานี ในตอนแรกเธอคิดว่าทั้งคู่ย่อส่วนลงมาให้เท่ากับเธอ แต่ก็พบว่าเธอเข้าใจผิด เธอยังคงอยู่ในโลกที่มีผู้คนขนาดเท่ากับเธอแน่นขนัดเช่นเดิม

(ผมเคยมีความฝันแบบเพี้ยนๆแต่เสมือนจริงเหมือนกับยูริโกะเหมือนกัน ตอนที่เป็นไข้น่ะครับ ความฝันจะวุ่นวายสับสน มีทั้งเรื่องจริง เรื่องที่อยากพบ และเรื่องที่ไม่อยากพบ ปรากฏผสมปนเปวุ่นวายไปหมด ซึ่งคงจะเป็นเพราะพิษไข้ ในรายของยูริโกะเองก็คงเช่นกัน…แต่ไม่แน่นะครับ ..ใครจะรู้ว่า ในบางครั้งที่ร่างกายของเราผิดปกติจนกักขังจิตเอาไว้ไม่อยู่เช่นในยามเจ็บป่วย เราอาจจะเคยเดินทางผ่านเวลาและอวกาศไปสู่เหตุการณ์แปลกๆในมิติอื่นมาแล้วก็ได้…)


ตอนที่ 18 ไข่สายรุ้ง (ออกอากาศเมื่อ1 พฤษภาคม 1966)
Pagos สัตว์ประหลาดที่กินยูเรเนี่ยมเป็นอาหาร ได้ขึ้นมาสู่พื้นโลกและโจมตีรถบันทุกยูเรเนี่ยม ในขณะเดียวกัน พิโกะได้พยายามค้นหาไข่สายรุ้งในตำนานที่เชื่อกันว่าจะทำให้ความปรารถนาเป็นความจริงเมื่อดอกซาเซเมบานทุกรอบศตวรรษ มาเพื่อช่วยรักษาขาของยาย ในตำนานได้กล่าวไว้ว่า ในหัวใจของเด็กที่มองเห็นสายรุ้ง จะมีเจ้าชายผู้มหัศจรรย์เกิดขึ้น พิโกะมีความเชื่อว่าเธอสามารถหาไข่สายรุ้งพบที่ปลายสายรุ้ง และในที่สุดเธอก็มาพบกับ Pagos ซึ่งแผ่รังสีจากนิวเคลียร์ออกมาคล้ายกับสายรุ้ง ทำให้เธอค้นพบยูเรเนี่ยมที่สูญหายไป และ Pagos ได้ถูกทำลายลงด้วยจรวดนิวตรอนในที่สุด
พิโกะรีบกลับมามาบ้าน ก็พบว่ายายสามารถลุกขึ้นเดินได้แล้ว ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เพราะเรื่องไข่สายรุ้ง แต่เป็นเพราะเจ้าชายที่เกิดขึ้นในดวงใจของพิโกะต่างหากที่สร้างความมหัศจรรย์ให้ยายสามารถหายจากอาการเจ็บป่วยได้
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
สัตว์ประหลาดใต้พิภพ Pagos
สูง 30 เมตร หนัก 20,000 ตัน ชอบยูเรเนี่ยม สามารถยิงลำแสงที่ทำลายโครงสร้างของโมเลกุลได้ สามารถขุดอุโมงค์ใต้ดินด้วยความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถูกทำลายโดยจรวดนีโอ-นิวตรอน


ตอนที่ 19 สิ่งท้าทายจากปี 2020 (ออกอากาศวันที่ 8 พฤษภาคม 1966)
ผู้คนสูญหายไปอย่างลึกลับ แม้แต่จุนก็สูญหาย ยูริโกะเป็นคนหนึ่งที่ได้พบเห็นคนที่กำลังสูญหายไป ซึ่งคล้ายคลึงกับเรื่อง
ในนิยายวิทยาศาสตร์ “Challenge from 2020” ที่เนื้อเรื่องกล่าวถึงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า Kemur สามารถย้ายจิตวิญญาณ
ของตนเข้าไปไว้ในร่างของมนุษย์คนอื่นได้เมื่อร่างเดิมของตนหมดสิ้นอายุขัย ซึ่งเป็นหนังสือที่อิเปกำลังสนใจอ่านอยู่ ซึ่งแท้ที่
จริงแล้ว หนังสือดังกล่าวไม่ใช่นิยาย แต่เป็นบันทึกจากประสบการณ์ของศาสตราจารย์คนหนึ่งขณะทำการทดลองบาง
อย่างเกี่ยวกับ “คลื่นแสง X-channel” ตามหนังสือระบุว่า ผู้คนจะถูกส่งไปยังดาว Kemur ซึ่งอยู่คนละช่วงเวลากับโลกปัจจุบัน
(คือประมาณปี 2020)

(หมายเหตุ-ภาพยนต์เรื่องนี้สร้างเมื่อปี 1966 คือเมื่อประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว ดังนั้นการเขียนถึงปี 2020 จึงถือว่าเป็น
อนาคตที่ยังไกลอยู่มาก จินตนาการจึงไม่จำเป็นต้องตรงกับความเป็นจริง ตัวอย่างดังกล่าวในนิยายวิทยาศาสตร์ของตะวันตก
เช่น 2001: A Space Oddyssy ของอาเธอร์ ซี คลาร์ค มองอนาคตไว้ว่า ในปี 2001 มนุษย์จะสามารถเดินทางไปถึงดาว
พฤหัสเพื่อติดต่อกับสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวได้แล้ว ในขณะที่ตามความเป็นจริง ปีนี้เป็นปี 2002 แล้ว แต่มนุษย์ยัง
ไม่เคยไปได้ไกลกว่าดวงจันทร์ อย่างไรก็ดี จินตนาการไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งเหลวไหล แต่เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งแรงจูงใจในความเจริญก้าว
หน้าทางวิทยาศาสตร์มากมาย หากขาดจินตนาการ เราก็คงยังต้องเดินบนดินและล่าสัตว์กันอยู่ คงไม่สามารถออกไปย่ำบนดวงจันทร์ หรือส่งานสำรวจออกไปนอกระบบสุริยะได้เช่นทุกวันนี้ อนึ่ง หากจะดูหนังหรืออ่านนิยายวิทยาศาสตร์ให้สนุก ต้องพยายามมองข้ามความ
เป็นจริงในบางเรื่องไปบ้าง อย่าจริงจังให้มากนัก จึงจะได้อรรถรสครับ)

รายละเอียดสัตว์ประหลาด
มนุษย์ดาว Kemur
สูง 1.9-30 เมตร หนัก 10 กิโลกรัม ถึง 15,000 ตัน มีสภาพร่างกายที่เริ่มเสื่อมเพราะอายุขัย จึงลักพาตัวมนุษย์
ไปเพื่อเคลื่อนย้ายสมอง พ่นของเหลวออกมาทำให้มนุษย์หายตัวไป วิ่งเร็วกว่ารถตำรวจ มีจุดอ่อนคือถูกกำจัดได้ด้วยคลื่นแสง
X-Channel


ตอนที่ 20 สิ่งมีชีวิตใต้บาดาล รากอน (ออกอากาศเมื่อ 15 พฤษภาคม 1966)
เพื่อความสมบูรณ์ของข่าวเกี่ยวกับภูเขาไฟใต้สมุทรจุนและยูริโกะจึงเดินทางไปหาศาสตราจารย์ อิชิอิ ในขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตใต้บาดาล “รากอน” ก็ได้ขึ้นมาที่ผิวโลกเพื่อตามหาไข่ซึ่งถูกลากติดมากับอวนของชาวประมง
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
รากอน
สูง 2 เมตร หนัก 100 กิโลกรัม ครองโลกเมื่อประมาณ 200 ล้านปีมาแล้ว มีลักษณะคล้ายมนุษย์ แต่มีวิวัฒนาการไปทางสัตว์เลื้อยคลานอาศัยอยู่ในทะเลระดับความลึก 5,000 เมตร ดังนั้นจึงแข็งแรงมากเมื่ออยู่บนพื้นดิน มีความดุร้าย แต่กลับสงบลงได้เพราะเสียงดนตรี


ตอนที่ 21 ภารกิจอวกาศที่ เอ็ม 4774 (ออกอากาศเมื่อ 22 พฤษภาคม 1966)
ระหว่างเดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ยูริโกะได้ยินเสียงของ “เซมิ” จากตุ๊กตาของเธอ เตือนให้ระวังการรุกรานจาก Bostang
อสุรกายของมนุษย์ดาว Keel เซมิเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ดาว Rupert ซึ่งมีภารกิจในการนำคำเตือนนี้มาเพื่อปกป้องโลก(ภารกิจ เอ็ม 4774)

เครื่องบินของจุนและอิปเป ได้ทะลุผ่านเข้าไปในเขตต่างมิติและได้รับคำเตือนดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งเซมิกล่าวว่า หากทั้งสองคนไม่เชื่อคำเตือน
พวกเขาก็ควรจะได้พบเธอ
ร่างมนุษย์ของเซมิคือ คิโยมิ อิชิโจ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ เซมิตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่บนโลกต่อไป
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
Bosatang
สูง 50 เมตร หนัก 10,000 ตัน ถูกส่งมายังโลกโดยมนุษย์ดาว Keel ว่ายน้ำได้เร็ว13,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบินด้วย
ความเร็ว 2 เท่าเสียง
เซมิ สูง 1.6 เมตร หนัก 45 กิโลกรัม รูปร่างเหมือนชาวโลกมนุษย์ดาว Keel รูปร่างคล้ายคลึงมนุษย์ ชอบสงคราม


ตอนที่ 22 Transformation (ออกอากาศเมื่อ 29 พฤษภาคม 1966)
โคจิ นักกีฏวิทยา คนรักของอายาโกะ สูญหายไปหลังจากติดตามและถูกจู่โจมโดยพิษของผีเสื้อกลายพันธุ์ในป่าลึก จนตนเองกลาย
พันธ์เป็นมนุษย์ยักษ์
Transformation นี้เคยถูกตั้งใจให้เป็นตอนที่ 2 ของ Ultra Q ซึ่งขณะนั้นยังมีชื่อว่า Unbalance
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
มนุษย์ยักษ์
สูง 20 เมตร หนัก 500 ตัน เป็นมนุษย์ที่ถูกพิษของผีเสื้อกลายพันธุ์จนตนเองสูญเสียความทรงจำและขยายร่าง
จนมีขนาดยักษ์หลังจากดื่มน้ำในทะเลสาบ กลับมีขนาดเท่า
เดิมได้ด้วยแสงเลเซอร์ของศาตราจารย์อิชิโนตานิ
ผีเสื้อยักษ์ Morpho ยาว 80 เซนติเมตร หนัก 100 กรัม โดยปกติอาศัยอยู่ในแถบลุ่มน้ำอะเมซอนสามารถปล่อยละอองพิษที่
ทำให้มนุษย์รู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกเผา และขยายร่างใหญ่
ขึ้น


ตอนที่ 23 เหตุร้ายที่ทะเลใต้ (ออกอากาศเมื่อ 5 มิถุนายน 1966)
เรือไทเฮอิมารู ถูกโจมตีโดยปลาหมึกยักษ์ ลูกเรือที่รอดชีวิตถูกคลื่นพัดไปติดชายหาดที่เกาะ Compass โดยมีผู้รอดชีวิต
อีกคนเป็นหญิงสาวชื่อ Anita และได้มาพบกับจุนและเพื่อนๆซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าวพอดี
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
ปลาหมึกยักษ์ SUDAR
ยาว 100 เมตร หนัก 30,000 ตัน อาศัยใกล้เกาะ Compass ในทะเลใต้ มักจะจู่โจมทำลายเรือประมง
บริเวณดังกล่าว จนได้รับการขนานนามว่า ทะเลแห่งความตาย มีความเชื่อว่าบรรพบุรุษเป็นเทพเจ้าที่คอยปกป้องเกาะดังกล่าว


ตอนที่ 24 รูปปั้นแห่ง Gorga (ออกอากาศเมื่อ 12 มิถุนายน 1966)
รูปปั้นแห่ง Gorga ถูกขโมยและนำเข้ามายังญี่ปุ่นโดยผิดกฎหมาย ภายในรูปปั้นมีอสุรกายหอยทากยักษ์ชื่อว่า Gorga ซึ่งถูกกักขังไว้ในรูปปั้นหลังจากที่มันทำลายอาณาจักร Aranka ภายในคืนเดียวเมื่อ 6,000 ปีก่อน Gorga ถูกทำให้ฟื้นขึ้นมาโดย
กัมมันตภาพรังสี
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
Gorga
สูง 20 เมตร หนัก 20,000 ตัน รูปร่างคล้ายหอยทาก สามารถปล่อยแสงเลเซอร์ได้จากดวงตา เคลื่อนที่อย่างว่องไวโดย
ใช้เกลียวสว่านที่เปลือกหอย ไม่ชอบไฟ


ตอนที่ 25 เด็กปีศาจ (ออกอากาศเมื่อ 19 มิถุนายน 1966)
อุบัติเหตุและการตายที่ผิดปกติเกิดขึ้นจากฝีมือของ Lily เด็กหญิงจากกลุ่มเวทย์มนต์ตะวันออก ซึ่งมีความสามารถพิเศษถอดวิญญาณได้หลังจากได้รับยานอนหลับในการบำบัดรักษาในแต่ละวัน เธอแสดงออกเหมือนพึงพอใจในความสงบ แต่ความจริงกำลังพยายามทำลายร่างกายตนเอง จุนและเพื่อนๆพยายามหยุดการกระทำดังกล่าวของเธอ

เด็กปีศาจ หรือ Devil Child ถูกสร้างเพื่อจุดประสงค์ดั้งเดิมที่จะเป็นตอนที่ 3 ของภาพยนต์ชุด Unbalance แต่โครงการได้ล้มเลิก
ไปจึงกลายมาเป็นตอนที่ 25 ของ Ultra Q


ตอนที่ 26 Burn on , Glory (ออกอากาศเมื่อ 26 มิถุนายน 1966)

โจ อาอิกาว่า หรือ ไดนาไมต์ โจ แชมเปี้ยนชกมวยผู้มีชื่อเสียง ได้ผูกมิตรภาพกับสัตว์เลื้อยคลานผสมระหว่างเต่าและจรเข้จากทะเลลึก
 และตั้งชื่อมันว่า ปีเตอร์ โจใช้ปีเตอร์ในการทำนายอนาคต นอกจากนี้ปีเตอร์ยังสามารถขยายร่างได้ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ด
ี ในเวลาต่อมา โจได้แขวนนวมหลังจากที่ปีเตอร์ทำนายว่าเขาจะชกแพ้ และหันไปเอาดีในการเป็นเล่นตลกที่ Seaside Hotel
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
อสุรกายทะเลลึก ปีเตอร์
ยาว 20 เซ้นติเมตร ถึง 30 เมตร หนัก 500 กรัม ถึง 15,000 ตัน ขนาดสามารถเปลี่ยนไปได้ตามอุณหภูมิ
ิของสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป มีความสามารถติดต่อกับมนุษย์และทำนายอนาคตได้


ตอนที่ 27 เที่ยวบิน 206 มหาภัย (ออกอากาศเมื่อ 3 กรกฎาคม 1966)
อิปเป และจุน ขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินที่ 206 ซึ่งเป็นเที่ยวบินซูเปอร์โซนิคเที่ยวบินแรกของญี่ปุ่น ซึ่งมันได้หายไปจากจอเรดาร์เหนือกรุงโตเกียวไปสู่มิติอื่น ซึ่งยึดครองโดยอสุรกาย Todora
รายละเอียดสัตว์ประหลาด
Todora
สูง 30 เมตร หนัก 25,000 ตัน มี 8 เขี้ยว และครีบใหญ่สำหรับว่ายน้ำ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดีบนพื้นดิน


ตอนที่ 28 Open Up!! (ออกอากาศเมื่อ 14 ธันวาคม 1967)

ตอนที่ 28 นี้ ไม่ได้รับการออกอากาศในช่วงที่ Ultra Q ช่วงแรกฉายทางโทรทัศน์ด้วย 2 เหตุผล คือ ประการแรก Open Up! ถูกลงความเห็นว่าเนื้อหาค่อนข้างยากและซับซ้อนเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางข้ามมิติและมีความเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ระดับ
สูงเกินกว่าที่ผู้ชมทั่วไปจะเข้าใจ แต่เหตุผลที่แท้จริงก็คือ Tsuburaya production ต้องการปูพื้นฐานความคิดของผู้ชม โดยการให้รู้จักกับภาพยนต์ชุด “อุลตร้าแมน” ที่กำลังจะตามมาก่อน

ตามท้องเรื่องของ Open Up! จุนและยูริโกะ ถามคนเมาคนหนึ่งว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น เขาตอบว่า เขาต้องการหนีไปจากชีวิตนี้ เมื่อเขาเมาเขาจะได้โดยสารรถไฟเหาะผ่านมิติที่ลึกลับ ซึ่งรถไฟเหาะดังกล่าวสามารถเดินทางผ่านกาลเวลาและอวกาศ (Space and Time)


 โดยสรุป Ultra Q ถูกสร้างเพื่อออกอากาศแก่ผู้ชมทางโทรทัศน์ทั้งสิ้น 28 ตอนดังเรื่องย่อที่ได้นำเสนอมาข้างต้น