ผ้าซิ่นตีนจกของชาวไทยพวนที่บ้านหาดเสี้ยว
.............................
|
..ค่านิยมของสังคมชายไทยพวนหาดเสี้ยวในอดีต
ยกย่องสตรีที่สามารถทอผ้าได้ดี
ว่ามีคุณสมบัติของแม่บ้านแม่เรือนเพราะเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเป็นหนึ่ง
ในปัจจัยสี่ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต
สังคมในสมัยก่อน
การผลิตปัจจัยสี่ .ในการดำรงชีวิตจะกระทำเองในครัวเรือน
ผู้หญิงจึงมักหัดทอผ้าตั้งแต่ในวัยเด็ก
แต่ในสังคมปัจจุบันการทอผ้าใช้เอง
..ไม่เป็นเรื่องที่สำคัญอีกแล้ว
สาเหตุหนึ่ง
มาจากการเปลี่ยนแปลงของค่านิยม
เรื่องการแต่งกายที่เข้าสู่สมัยของสากลนิยม
|
........
" อดีตที่ค่อย ค่อย
เลือนหายไปจากความทรงจำ " มรดกทางด้านวัฒนธรรมที่จะค่อย
เลือนหายไปจากความทรงจำของคน
ในสมัยยุคปัจจุบันและอนาคตข้างหน้านี้คือ
ผ้าซิ่นตีนจกของชาวไทยพวนที่บ้านหาดเสี้ยว
จากวัฒนธรรมที่ย่อมมีการวิวัฒนาการ
ในตัวของมันเอง
พัฒนาจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง
ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
หากว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นตั้งมั่นอยู่บนรากฐานของความ
เชื่อมั่นศรัธา และผสมผสานไว้
ซึ่งความต้องการของสังคมที่จะอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมนั้นไว้
ลักษณะที่เป็นสิ่งเฉพาะตัวของสิ่งนี้ที่เรียกว่า
วัฒนธรรม จะยังคงต้องโดดเด่นในความรู้สึกของคนทั่วไป
แม้ว่ากาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไปก็ตามฉะนั้นการสืบทอดเจตนารมย์ของลูกหลานจากบรรพบุรุษชาว
ไทยพวนในเรื่องของการแต่งกายด้วยผ้าซิ่นตีนจกจึงถูกสืบสานส่งต่อไปยังรุ่นลูก
หลานรุ่นต่อไป
ในเขตตำบลหาดเสี้ยว
อำเภอศรีสัชนาลัย
จังหวัดสุโขทัย
มีวัฒนธรรมการทอผ้าซิ่นตีนจก
ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โดดเด่นมากการผสมผสานกลมกลืนสีสรรของการทอผ้าซิ่นตีนจก
จึงเป็นที่มาแห่งการวิวัฒนาการทางภูมิปัญญาของชนชาวไทยพวนที่บ้านหาดเสี้ยวจนถึงปัจจุบัน
ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงในเรื่องของลวดลายและสีสรร
เพราะอุปสงค์หรือความต้องการของผู้ซื้อ
สินค้าประเภทผ้าซิ่นตีนจกนั่นนั่น
ความเป็นมาของผ้าซิ่นตีนจกของชาวพวนหาดเสี้ยวมีมานานนับศตวรรษแล้ว
ลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากกลุ่มผ้าซิ่น
ของชาวไทยอื่นๆ คือ
รายละเอียดในการออกแบบ
โครงสร้างและลวดลายบนผืนผ้าซิ่นแม้แต่ในพื้นที่ตำบลหาดเสี้ยวเดียวกัน
ความแตกต่างของโครงสร้างและลวดลายที่ปรากฏบนผืนผ้าจะไม่เหมือนกัน
คำกล่าว
ของผู้เฒ่าผู้แก่ที่บอกว่า "
ผ้าซิ่นตีนจก "
สามารถบอกแหล่งกำเนิดกลุ่มชนชาติพันธุ์ว่ามาจากกลุ่มใด
หมู่บ้านใด ได้เป็นอย่างดี
|
ผืนนี้เป็นผ้าทองโบราณ...................................
สมัยก่อนผ้าซฺนตีนจก
เป็นผ้าซิ่นที่ทอขึ้นมาไว้ใช้ในโอกาสพิเศษเกี่ยวกับความเชื่อ
ขนบธรรมเนียมประเพณี
ของชาวพวนหาดเสี้ยว
เช่นนงานทำบุญ งานนักขัตฤกษ์
งานเทศกาลและพิธีการสำคัญ
และในกระบวนการทอผ้าทั้งหมดทุกประเภท
ผ้าซิ่นตีนจก
เป็นสิ่งที่ประณีตงดงามที่สุด
และ ยังแฝงไว้ด้วยความเชื่อ
และขนบประเพณีอันดีงามของชาวพวนหาดเสี้ยวไว้อีกด้วย. |
.ความหมายของคำว่า
ซิ่นตีนจก
ผ้าซิ่นตีนจก ประกอบด้วย 3 ส่วน
คือ
1. หัวซิ่น คือ
ส่วนบนของผ้าซิ่น 2.
ตัวซิ่น คือ ส่วนกลางของผ้าซิ่น
3. ตีนซิ่น คือ
ส่วนล่างของผ้าซิ่น
............
ซึ่งวิธีการเย็บเป็นถุงจะเย็บข้างเดียว
เส้นยืนของผ้าจะปรากฏเป็นลายขวางตรงกลางตัวซิ่น
ความยาวของผ้าซิ่นตีนจกนี้ขึ้นอยู่กับ
ความกว้างของฟีม (
อุปกรณ์การทอผ้า )
ในสมัยก่อนฟีมทอผ้ามักจะหน้าแคบ
จึงต้องใช้วิธีต่อส่วนเอว
และส่วนตีน
เพื่อให้มีความยาวพอเหมาะกับการสวมใส่
การทอซิ่นตีนจก นี้จะนิยม
ทอลวดลาย
เฉพาะตรงส่วนกลางและตรงส่วนล่างของผ้าซิ่น
ส่วนที่เป็นหัวซิ่นจะใช้เป็นผ้าพื้นธรรมดา
ซึ่งเป็นประโยชน์ในแง่ของความคงทนถาวร
และสามารถเปลี่ยนได้
ถ้าหากมีการฉีดขาดเพื่อการง่ายต่อความเข้าใจ
ซิ่นตีนจกสามารถแยกแปลความหมายได้ดังนี้คือ
...........ความหมายคำว่า
ตีนจก
ตีน หมายถึง
โครงสร้างส่วนล่างที่ประกอบเป็นผ้าถุง
ซึ่งโดยทั่วไป
ผ้าซิ่นตีนจกจะประกอบไปด้วย 3
ส่วน คือ
หัวซิ่น ( ส่วนบน )...............................
ตัวซิ่น ( ส่วนกลาง
)........................................... ตีนซิ่น (
ส่วนล่าง )
จก ตามภาษาพื้นบ้าน
แปลว่า ควักหรือล้วงด้วยมือ
เป็นเทคนิคการทำลวดลายบนผืนผ้าเป็นช่วงๆ
ไม่ติดต่อกัน
ตลอดหน้ากว้างของผ้า
ทำให้สามารถสลับสีสรรคลวดลายได้หลากหลายสี
ซึ่งอาจใช้ขนเม่นหรือไม้ช่วยก็ได้
เมื่อนำความหมายมารวมกัน ซิ่นตีนจก
จึงหมายความถึง
การทำลวดลายที่มีส่วนงดงามบนผืนผ้าอาจจะ
ใช้ฝ้าย
หรือไหมแล้วนำมาประกอบหรือต่อตรงส่วนล่างของผ้าซิ่น
เมื่อรวมกันเป็นผืนจึงเรียกว่า
ซิ่นตีนจก