อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ พุ เ ต ย

 

หลังจากที่พวกเราห่างหายจากการเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่มานาน เนื่องจากแต่ละคนก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ครั้งนี้จึงเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่อีกครั้ง ถึงแม้จะขาดบุคคลสำคัญ ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันหลายคน แต่พวกเราก็เขาใจ ในภาระหน้าที่ และถึงแม้ว่าเวลาสำหรับการได้ใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้ของพวกเราจะลดน้อยลงไปทุกที่ แต่พวกเราก็มีความสุขกับช่วงเวลาสั้นๆนี้
วันเสาร์ที่ 15 กุมภา 2546 พวกเราบางคนนัดเจอกันที่บ้านสุพรรณ พี่อ๊อด(คุณชายสายเสมอ)วันนี้มาเป็นคนแรก และมาเพียงคนเดียว เพราะภรรยาสุดสวาทขาดใจต้องพาน้องปีเก้ลูกชายไปเข้ากล้อง ตอนนี้พี่อ๊อดของเราก็กลายเป็นพ่อดาราไปแล้ว ตามมาด้วย2สาวโสดคุณเล็กที่ออกมาตั้งแต่เช้า แต่ถึงเกือบบ่าย 2 เพราะมัวทะเลาะกับเนวิเกเตอร์กระต่ายน้อย เกือบหลงไปเชียงราย และตบท้ายด้วยคู่สวีทแห่งยุค จอห์นเลนอน เป็ค กับพี่เล็ก ที่เป็นต้นเหตุให้พวกเราต้องรีบบึ่งรถให้ถึงที่ตั้งแคมป์ก่อนมืด
หลังจากแวะซื้อสะเบียงที่ตัวอำเภอด่านช้าง เราก็มุ่งหน้าสู่พุเตย ระยะทาง 33 ก.ม. ขึ้นเขานิดหน่อย ฝนก็เริ่มตกและตกหนักมากขึ้นจนเกือบมองไม่เห็นทาง ก่อนถึงอุทยานฯ เราก็ทันกับรถพี่ฉีซึ่งออกมาตั้งแต่เมื่อคืนวันศุกร์ ที่อุทยานฯฝนก็ยังลงเม็ดปรอยๆ อากาศเย็นสบาย พวกที่มากางเต็นที่นี่ส่วนมากจะชอบความสงบเป็นส่วนตัว จึงมักไปแอบกางเต็นท์ริมๆหรือไกลๆออกไป จึงเหลือสนามกว้างใหญ่ไว้ให้พวกเรา หลังจากกางเต็นท์ได้ไม่นานครอบครัวพี่ผอมและคุณชิงชัยก็ตามมาถึง ก็เป็นเวลาเกือบมืดพอดีกับอาหารเย็นที่พวกเราเตรียมกันมาเรียบร้อยแล้ว หลังอาหารค่ำแบบสบายๆ ที่มีพี่น้อยเป็นกับแกล้มให้เราได้กัดได้แทะ หลังจากที่แอบแยกตัวไปนาน  ดวงจันทร์กลมโตกับอากาศที่หนาวเย็นลงเรื่อยๆ กับเสียงกีต้าร์เพลงสากลย้อนยุคล้วนๆโดยจอห์นเลนอนเป็ค ที่ทำให้เป็นช่วงเวลาของค่ำคืนแห่งกาลเวลา
6.30 น. เช้าวันอาทิตย์ อากาศยังหนาว พวกเราขับรถขึ้นไปดูทะเลหมอกกันบนเขาสนสองใบ ระยะทาง 12 ก.ม. วันนั้นพระอาทิตย์ดวงโตค่อยโพล่พ้นยอดเขาก่อนที่พวกเราต้องเดินขึ้นเขา ระยะทางเกือบ 2 ก.ม. แต่ก็คุ้มค่ากับบรรยากาศความงามและความทรงจำ ถึงแม้จะทำให้สาวโสดอย่างพี่น้อยกับคุณเล็กก้นห้อยไปอีกเล็กน้อยก็ตาม และโชคดีที่ขากลับมีรถ 4X4 รับพวกเรากลับลงมาทำให้ย่นระยะอีกเกือบ 1 ก.ม.
โปรมแกรมสำหรับวันนี้ พวกเรามุ่งสู่อำเภอบ้านไร่จังหวัดอุทัย แวะวัดถ้ำเขาวงที่สวยงามเหมือนรีสอร์ท ถ้ำพุหวายที่มีมัคกุเทศน์หนุ่มหล่อที่ทำให้ หัวใจดวงน้อยๆของคุณเล็กตกหล่นอยู่ในถ้ำไม่รู้ว่าวันใหนจะได้กลับไปเอาคืน ปิดท้ายด้วยต้นไม้ยักษ์ขนาด 21 คนโอบ ที่ดูยิ่งใหญ่แต่โดดเดี่ยวท่ามกลางป่าหมาก เหมือนกับชีวิตของผู้ยิ่งใหญ่ที่ขาดความรัก ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวรอวันร่วงโรยโดยขาดผู้รู้ใจอยู่เคียงข้าง (โต้งหมายถึงใครนะเนี่ย) เรากับที่พักก็เกือบมืด อาหารเย็นต้มจืดฟองเต้าหู้กระดูกหมูู้พี่อ๊อด อร่อยจนหยดสุดท้าย อาหารทริปนี้ของเราเรียบง่ายแต่ได้ใจความ ไข่เจียวมาม่ายืนพื้น จะพิเศษก็น้ำต้มกระดูกหมูนี่แหละ คืนนี้เมฆฝนลอยบังดวงจันทร์เป็นระยะๆพอให้พี่น้อยได้เสียว แต่ก็ผ่านไปด้วยดี
เช้าวันจันทร์ เรามุ่งหน้ากลับอีกด้านของอุทยานฯผ่านหมู่บ้านกระเหรี่ยงห้วยหินดำ เส้นทางขึ้นลงเขา ที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก เราแวะดูเฟอร์นิเจอร์จากรากไม้ที่บ้านหนองผือ หมดค่าช๊อปไปอีกหลายหมื่น เสียเวลาไปกว่า3ชั่วโมงกว่าจะแยกย้ายกันก็บ่ายแล้ว

ในช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆมากมาย รับรู้ความสุข ความทุกข์ ความเหงา ความเศร้า ปัญหาที่รอการแก้ไข ภาระที่รอวันสะสาง หน้าที่การงานที่ต้องคอยรับผิดชอบ ครอบครัวที่ต้องคอยดูแล แต่มีช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราจะได้พักผ่อนและจดจำเรื่องราวที่ไม่เป็นสาระ แต่อาจทำให้หัวใจของเราเบิกบาน พร้อมที่จะกลับไปสู้กับความจริงของชีวิตต่อไป

Home | [ ปิดหน้าต่างนี้ ]