Main Page

Mae Hong Son Big Trip

ประมวลภาพงาน Jazz Concert

Pimai & Panom Rung Historic Park

Chiang Rai trip

Pitsanulok & Pichit trip

Mini Siam trip

Rayong's orchard trip

Phuket trip

Thailand Map & Our Travel routes

About Me

โปรดสละเวลาลงนามในสมุดเยี่ยมชมหน่อยครับ

Email Me

Counter
Since July 12, 2003

Date : November |22| |23| |24| |25| |26| |27| |28| |29| |30|, 2003


November 25, 2003 ... Part |1| |2| |3| |4|
Fourth day ... Go to Wat Phra Non before leaving Mae Hong Son City ,Thampla & Phasue National Park ,Pra Tamnuk Pang Tong and Ruam Thai Village(Pang Ung).
วันที่สี่...แวะวัดพระนอนก่อนออกจากตัวเมือง ,เที่ยวอุทยานถ้ำปลา ,น้ำตกผาเสื่อ ,พระตำหนักปางตอง และเข้าหมู่บ้านรวมไทย(ปางอุ๋ง)

 

     
   
นี่ไงครับ...โพรงที่อยู่ในถ้ำ มีปลาพลวงหินแหวกว่ายอยู่เยอะแยะเลย
     
           
       

น้องซีกำลังให้อาหารปลาอยู่ หย่อนไปทีก็ทำให้น้ำกระเซ็นขึ้นมาเล็กน้อยเนื่องจากเหล่าปลาได้แหวกว่ายกันแย่งกินอาหารที่ให้ ลืมบอกไปอย่างหนึ่งครับ ปลาที่นี่เขาถือว่าเป็นปลาเทวดาฉะนั้นจะไม่มีผู้คนหรือชาวบ้านจับไปทานกันครับ เพราะมีเรื่องเล่าสมัยก่อนว่ามีคนจับไปทานแล้วไม่นานก็มีอันเป็นไป อ้อ...ปลาที่นีีชอบไข่ต้มกับแตงโมนะครับ แต่อาหารปลาที่เป็นเม็ดๆก็กินได้เหมือนกัน ก่อนจะไปอาจเตรียมซื้อมาในราคาถูกจากที่อื่นก็ได้ครับ ไม่หมดไม่เป็นไรอาจไปให้ที่น้ำตกผาเสื่อหรือไม่ก็ถ้ำน้ำลอดเลยก็ได้ มีปลาพลวงหินรอกินอยู่ตลอดครับ

 
 
   
 

อีกจุดหนึ่งที่มีปลาพลวงหินแหวกว่าย รอคอยที่จะเข้าไปในถ้ำปลา

   
           
       
จากนั้นเราก็ย้อนรถมาที่เส้นทางจะไปบ้านรวมไทยหรือปางอุ๋ง แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดหมาย เราก็ได้เจอกับน้ำตกผาเสื่อ ซึ่งถึงก่อนพระตำหนักปางตอง และบ้านรวมไทยพอประมาณ ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือของถนน สภาพเส้นทางลาดยางตลอดก็จริงแต่ทางค่อนข้างชันครับ ขับมาก็ใช้เกียร์ให้ถูกละกัน ในภาพมีแขกไม่ได้รับเชิญมา 1 ตัวครับ คือเจ้าหมานอนหลับนั่นเอง
 
       
           
       
   
เดินลงก็ได้เจอกับน้ำตกผาเสื่อ ปริมาณน้ำผมว่าไม่เยอะเท่าไหร่ และก็ไม่สวยอีกต่างหาก อันนี้แล้วแต่คนชอบนะครับ
       
           
       
อีกวิวหนึ่งของน้ำตกผาเสื่อ เวลาเดินบนโขดหินก็ระมัดระวังหน่อยละกันนะครับ เพราะมีบางจุดที่ชันและเป็นเหวลงไป เดินไม่ดีอาจพลาดพลั้งตกลงไปได้
 
       
           
   
 
รูปนี้เป็นวิวลำธารด้านบนก่อนจะไหลลงมาเป็นน้ำตกผาเสื่อให้เราได้เห็นกัน
   
           
       
สภาพภายในป่าแถบนี้สมบูรณ์ดีมากเลย สังเกตพืชชั้นต่ำ เช่น มอส ขึ้นสีเขียวเต็มไปหมด
   
   
 
เดินไปลึกๆก็จะเจอกับต้นไม้ต้นหนึ่งที่สูงมาก มีเถาวัลย์เกี่ยวรอบๆต้นมัน
   
           
       
สักประมาณบ่ายสองโมง เราก็มาถึงพระตำหนักปางตอง ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากน้ำตกผาเสื่อพอควร แต่ขอบอกว่าทางมาน้ำตกผาเสื่อที่ว่าชันแล้ว ทางจากน้ำตกผาเสื่อไปพระตำหนักชันยิ่งกว่ามากนัก ขับจากน้ำตกมาสักระยะก็เจอสามแยกโดยเลี้ยวซ้ายเป็นทางไปพระตำหนักปางตอง ขับเข้ามาแบบคันเดียวโดดๆ พอถึงทางเข้าก็เจอทหารยาม สอบถามว่าเข้าไปชมได้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าเข้าไปชมได้แต่ตอนนี้กำลังปรับปรุงอยู่
 
       
           
     
 
ข้างในจะมีแปลงเกษตรไว้ปลูกพืชผักครับ ตอนไปเห็นคนกำลังรดน้ำและปลูกผักอยู่พอดี
     
           
       
หลังจากนั้นเราเองไม่รู้จะขับไปทางไหนดี จึงจอดรถและสอบถามกับทหารหนุ่มคนหนึ่ง ได้ความว่าให้ขับไปตามเส้นทางเรื่อยๆแล้วจะถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถจะเสด็จมาทางนี้ พร้อมกับชี้ไปยังเรือนประทับแรมที่อยู่ห่างออกไปประมาณสัก 1 กม. หลังจากได้รับทราบดังกล่าวเราจึงขอบคุณและขับตามทหารบอก ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเพื่อไปตามทางที่บอกจะสังเกตเห็นหลักกิโลเมตรที่ 0 โอ....ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะเนี่ย
 
       
   
         
     

มาถึงแล้วค่ะ....พอสุดทางถนนที่สนามจอดฮ. เราก็เดินกันมาตามทางเดินเท้า ผ่านเสาธงชาติไทย ตอนนั้นท้องฟ้าไล่สีฟ้าอ่อนไปเข้มสวยงามมาก

         
             
         

พอมาถึงเรือนประทับ ก็เจอช่างไม้กำลังวุ่นๆอยู่ จึงเข้าไปสอบถามว่าเยี่ยมชมและถ่ายรูปได้หรือเปล่า ? ได้รับคำตอบมาว่าได้แต่ภายในห้ามถ่ายรูป ตอนที่เราไปนั้นเขากำลังปรับปรุงกันยกใหญ่เพื่อรอรับเสด็จสมเด็จพระบรมราชินีนาถที่จะมาประทีบแรมในเดือนมกราคม ปี 2547 ซึ่งเป็นต้นปีหน้า

ในรูปเป็นด้านข้างของแรมที่ประทับ มีตะเกียงแขวนอยู่ดูสวยงาม

   
         
             
           
     
อีกด้านหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นประตูทางด้านหลังของที่ประทับแรม แต่จะเป็นทางเข้าโดยปกติของสมเด็จพระบรมราชินีนาถที่มาจากลานจอดเฮลิคอปเตอร์
 
           
Continue to Part 3