นมนานกาเลมาแล้ว
ในชมพูทวิปมีเทวาลัยอยู่แห่งหนึ่ง เทวาลัยแห่งนี้มิเพียงแต่ติดต่อ
รับโองการจากเทพเจ้าองค์เดียวดุจเทวาลัยแห่งอื่น ๆ ทว่าติดต่อกับโองการจากเทพเจ้าถึง
3 องค์ คือ เทพเจ้า "สัตยา" เทพเจ้า " มิถยา" และเทพเจ้า " ศาริกา"
ซึ่งเขาสร้างเป็นเทวรูปมีลักษณะ เหมือนกันทุกสัดส่วนทั้งสามองค์
ยากแก่การสังเกตให้ดูออกว่าเทวรูปที่ประดิษฐานไว้ตรงไหนแทนเทพเจ้าองค์ใด
เทวรูปทั้งสามนี้ประดิษฐานในท่านั่งเป็นแถวแนวเดียวกันอยู่เบื้องหลังแท่นบูชามีประชาชนแห่กันมาสักการะบูชาอย่างเนืองแน่น
บ้างมาขอพร (หญิงสาวมักตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ชาติหน้าเกิดมาสะสวยอย่างนางงามจักรวาล)
บ้างมาขอยารักษาโรคภัยไข้เจ็บ (ชายหนุ่มมักตั้งจิตอธิษฐานขอยาบำบัดโรคซุกซน)
บ้างมาขอโชคลาภ (ส่วนมากตั้งอธิษฐานขอเลขท้าย 2 ตัว และเลขท้าย
3 ตัว) บ้างมาขอคำทำนายชะตาราศี (ผู้มีทุกข์หวังผ่อนให้ร้อนคลาย
ผู้มีสุขยังหมายสบายยิ่งขึ้น) เทพเจ้าเหล่านี้ประทานคำตอบแก่บรรดาผู้มาไต่ถามโดยผ่านทางนักบวชประจำเทวาลัยนั่นเอง
|
เทพเจ้า
"สัตยา" ให้โองการที่เป็นจริงเชื่อถือได้เสมอ เทพเจ้า " มิถยา"
ให้โองการที่เป็นเท็จเชื่อถือไม่ได้เลย และเทพเจ้า "ศาริกา"
ให้โองการบางคราวก็จริงบางคราวก็เท็จแล้วแต่อารมณ์ เนื่องด้วยลักษณะของเทวรูปทั้งสามเหมือนกันเปี๊ยบหาที่ผิดเพี้ยนแตกต่างจากกันไม่ได้นั่นเอง
ผู้มาติดต่อขอความอนุเคราะห์จึงรู้สึกว้าวุ่นกับคำทำนายทายทักที่เขาได้มา
เพราะไม่แน่ใจว่าคำพยากรณ์นั้น ๆ จะเป็นที่เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร
ถึงกระนั้นก็ตาม บรรดาผู้คนก็ยังคงหลั่งไหลมายังเทวลัยแห่งนี้ไม่ขาดสาย
ซึ่งช่วยให้นักบวชผู้มีหัวแหลมจำพวกนี้ได้ใช้เล่ห์เพทุบายทำมาหากินจนพุงพลุ้ยได้ยั่งยืนต่อไป
|
จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง
มีเดียรถีย์มีปัญญารูปหนึ่งจาริกมาสู่เทวลัยแห่งนี้ เขาได้คุกเข่าลง
ณ แท่นบูชา ตั้งสัตย์ปฏิญญาว่าจะกระทำสิ่งที่ยังไม่มีผู้ใดก่อนหน้าเขากระทำได้สำเร็จ
กล่าว คือ เปิดเผยให้โลกประจักษ์ว่า เทวรูปตรงไหนแทนเทพเจ้าองค์ใด
|
เดียรถีย์ประเดิมคำถามแรกแก่เทวรูปทางซ้ายว่า
"เทพเจ้าองค์ใดประทับถัดไปจากองค์ท่าน " มีคำตอบกลับมาว่า "
เทพเจ้าสัตยา" |
เดียรถีย์ซักถามเทวรูปองค์กลางว่า
"องค์ท่านคือใคร" มีเสียงตอบย้อนมาว่า "เทพเจ้า ศาริกา" |
ในที่สุดเดียรถีย์ถามเทวรูปทางขวาว่า
"เทพเจ้าองค์ใดประทับข้างองค์ท่าน" มีเสียงตอบย้อนมาว่า "เทพเจ้า
มิถยา" |
เดียรถีย์พึมพำกับตัวเองว่า
"เอาละ! คราวนี้จะให้เห็นดำเห็นแดงกันเสียที" |
อีกไม่นาน
ณ สถานที่ภายนอกเทวลัย เดียรถีย์ผู้เชี่ยวชาญตรรกวิทยารูปนี้ก็สามารถค้นพบความจริงที่เร้นลับมานาน
และได้กล่าวตำนิติเตียนนักบวชประจำเทวลัยว่าเป็นผู้หลอกลวงชาวบ้านหากิน
|
ท่านผู้อ่านจะเห็นให้ข้อคิดวินิจฉัยได้อย่างไรว่า
" เทวรูปองค์ไหนแทนเทพเจ้าองค์ใด" ดังที่เดียรถีย์ประสพความสำเร็จมาแล้วในอดีต
|