พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์

ธรรมรักษา

                TPD057

พรหมจรรย์ที่ไม่บริสุทธิ์

 

พระพุทธเจ้า ได้ทรงตอบปัญหา ของพราหมณ์ชานุสโสณี ถึงเรื่องการประพฤติพรหมจรรย์ที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย บริสุทธิ์บริบูรณ์ ๗ ข้อ คือ

 

๑.     นักบวชบางคนในโลกนี้ แสดงเครื่องหมายแห่งพรหมจารี ไม่เสพเมถุนกับหญิง แต่ยังยินดีให้หญิงขัดสี ลูบไล้ ให้อาบน้ำและนวดแล้วเกิดความพอใจ ชอบใจ ปลื้มใจ ด้วยการกระทำนั้น

๒.    ไม่กระทำถึงอย่างนั้น แต่ยังกระซิกกระซี้ เล่นหัว สัพยอกกับหญิง แล้วเกิดความพอใจ ชอบใจ ปลื้มใจด้วยการเสสรวลนั้น

๓.    ไม่กระทำถึงอย่างนั้น แต่ยังเพ่งดู จ้องดูตาของหญิงด้วยตาของตน แล้วเกิดความพอใจ ชอบใจ ปลื้มใจด้วยการเล็งแลนั้น

๔.    ไม่กระทำถึงอย่างนั้น แต่เมื่อได้ฟังเสียงหญิง หัวเราะอยู่ก็ดี ร้องเพลงอยู่ก็ดี ร้องไห้อยู่ก็ดี แล้วเกิดความพอใจ ชอบใจ ปลื้มใจด้วยเสียงนั้น

๕.    ไม่กระทำถึงอย่างนั้น แต่เมื่อระลึกถึงการหัวเราะ พูดเล่นหัวกับหญิงในกาลก่อน แล้วเกิดความพอใจ ชอบใจ มีความปลื้มใจด้วยอาการนั้น

๖.     ไม่กระทำถึงอย่างนั้น แต่ได้เห็นคนมั่งมี หรือลูกคนรวย ผู้อิ่มเอิบด้วยกามคุณ ๕ กำลังได้รับการบำเรออยู่ แล้วเกิดความพอใจ ชอบใจปลื้มใจด้วยการบำเรอนั้น

๗.    ไม่กระทำถึงอย่างนั้น แต่ตั้งใจรักษาศีล หรือประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อหวังไปเกิดเป็นเทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง แล้วเกิดความพอใจชอบใจ และปลื้มใจด้วยความปรารถนานั้น

 

แม้อย่างนี้ พรหมจรรย์นั้นก็ชื่อว่า ขาด ทะลุ ด่าง พร้อย ไม่บริสุทธิ์ เพราะประกอบด้วยเมถุนสังโยค ไม่พ้นไปจากความทุกข์ได้

 

เมถุนสูตร ๒๓/๕๔

 

พระสูตรนี้ ทรงแสดงถึงอำนาจราคะ คือความกำหนัดเพศตรงกันข้ามที่ละเอียดอ่อนขึ้นไปตามลำดับ ถ้าผู้ประพฤติพรหมจรรย์อยู่ ไม่สำรวจ ไม่สำรวม ไม่สังวร ปล่อยให้อารมณ์เหล่านั้นเข้าครอบงำจิต การปฏิบัติธรรมก็ย่อมจะไม่ก้าวหน้า เพราะพรหมจรรย์ อันเป็นพื้นฐานแห่งธรรม มันขาด ทะลุ ด่าง พร้อย หรือไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว เหมือนไม้ที่สด แม้จะอยู่บนบก ก็ไม่อาจสีให้เกิดไฟได้