พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์

ธรรมรักษา

                TPD048

 

ผู้ไม่มีศีล ๕ ย่อมมีแต่ภัยเวร

 

พระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ได้ตรัสกะอนาถบิณฑิกคฤหบดี ถึงเรื่องศีล ๕ ว่า ผู้ไม่รักษาศีล ๕ ย่อมมีแต่ภัยและเวร ตายแล้วจะต้องตกนรกอีกด้วย ตอนหนึ่งทรงแสดงว่า

 

“คฤหบดี! คนผู้มีปกติฆ่าสัตว์ ย่อมประสบภัยเวร ที่เป็นไปในปัจจุบันก็มี ที่เป็นไปในภพหน้าก็มี ได้รับทุกข์ทางใจก็มี เพราะการฆ่าสัตว์เป็นเหตุ เมื่อเว้นจากการฆ่าสัตว์แล้ว ภัยเวรอันนั้นก็ย่อมสงบระงับ

 

คนผู้มีปกติลักทรัพย์ ย่อมประสบภัยเวร.....

คนผู้ประพฤติผิดในกาม ย่อมประสบภัยเวร....

คนผู้มีปกติพูดเท็จ ย่อมประสบภัยเวร....

คนผู้มีปกติดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ย่อมประสบภัยเวร ที่เป็นไปในปัจจุบันก็มี ที่เป็นไปในภพหน้าก็มี ได้รับทุกข์ทางใจก็มี เพราะการดื่มสุราเป็นเหตุและปัจจัย เมื่อเว้นจากการดื่มน้ำเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ภัยเวรอันนั้นย่อมสงบระงับไปด้วยประการฉะนี้”

 

เวรภยสูตร ๑๙/๔๓๘

 

ศีล ๕ อันเป็น “กฎปกติพื้นฐานของสังคม” ผู้ใดปฏิบัติได้ นอกจากตนเองจะปลอดจากภัยและเวรทั้งปวงแล้ว ยังมีผลไปถึงส่วนรวม ให้อยู่ด้วยกันอย่างปกติสุข

โปรดพิจารณาดูความไม่ปกติสุข ของสังคมในปัจจุบัน จะเห็นได้ชัดเจนว่า เกิดเพราะการขาดศีล ๕ เป็นส่วนใหญ่หรือเป็นหลักใหญ่ ไม่ข้อใดข้อหนึ่งก็หลายข้อ ไม่อาจจะเลี่ยงพ้นไปได้

ฉะนั้น ผู้รักความสงบและรักความสุข ก็ขอให้พยายามช่วยกันรักษาศีล ๕ ให้มาก ๆ เถิด โดยมุ่งที่ตัวเราเองก่อน รักษาไม่ได้หมดทั้ง ๕ ข้อ ก็ให้พยายามงดเว้นไปทีละข้อ ๆ ข้อไหนงดเว้นง่ายและสะดวก ก็ควรงดเว้นก่อน แล้วค่อยพยายามเพิ่มขึ้นทีละข้อ ๆ ก็จะครบทั้ง ๕ ข้อ ได้โดยไม่ยากเลย

ถ้าจะรอไว้ให้มีโอกาส งดเว้นทีเดียวทั้ง ๕ ข้อ บางทีชาตินี้ทั้งชาติ ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้รักษาเลย แม้แต่ข้อเดียว!

 

โง่แล้วขยันก็อันตราย

แต่ฉลาดแล้วขี้เกียจก็ไม่สบาย