พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์
ธรรมรักษา
TPD032
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
เมืองสาวัตถี ได้ตรัสยกย่องพระมหากัสสป ว่าเป็น ยอดของผู้สันโดษ ด้วยปัจจัยสี่ ไว้ดังนี้
ภิกษุทั้งหลาย! กัสสปนี้เป็นผู้สันโดษด้วยจีวร
บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัชตามมีตามได้ เป็นผู้กล่าวคุณแห่งความสันโดษ
ไม่แสวงหาด้วยวิธีอันไม่สมควร เมื่อไม่ได้ก็ไม่สะดุ้ง ครั้นได้ก็ไม่ยินดี ไม่ติดใจ
ไม่พัวพัน มีปกติเห็นโทษ มีปัญญาเครื่องสลัดออก ย่อมใช้สอย ย่อมบริโภค
เหตุนั้นแล พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
เราจักเป็นผู้สันโดษ ด้วยปัจจัย ๔ ตามมีตามได้ จักไม่แสวงหาอันไม่สมควร
ภิกษุทั้งหลาย! เราจะสอนพวกเธอ จงตามอย่างกัสสป
หรือทำตัวเหมือนกัสสป พวกเธอเมื่อฟังแล้ว จงทำอย่างนั้นเถิด
สันตุฏฐสูตร ๑๖/๒๑๖
พระมหากัสสปรูปนี้ มีคุณธรรมหนักแน่น ที่ท่านถือและปฏิบัติได้จนตลอดชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
แม้ท่านจะชราภาพแล้ว พระพุทธองค์ทรงขอร้อง ให้บรรเทาลงบ้างเถิด ท่านก็ไม่ยอม
จึงทรงถามถึงเหตุผล ท่านจึงได้กราบทูลตอบว่า เพื่ออนุเคราะห์ชนรุ่นหลัง
จากพระสูตรนี้ เราจะเห็นแนวปฏิปทา
ที่พระพุทธองค์ทรงโปรดเป็นพิเศษแก่พระที่ปฏิบัติขัดเกลากิเลสตัณหา ที่เรียกว่า พระป่า หรือ พระธุดงค์ ก็ได้แก่พระฝ่ายวิปัสสนาธุระนั่นเอง
โดนนัยนี้ ผู้ที่หวังจะให้เป็นที่ยกย่องสรรเสริญ
ของพระพุทธเจ้า ก็จงเอาอย่างพระมหากัสสปเถิด
และเราก็สามารถที่จะประยุกต์เอามาปฏิบัติได้ทั้งชาววัดและชาวบ้าน
นั่นคือหลักการสันโดษ คือ ความพอใจตามที่มี และยินดีตามที่ได้ ถ้าเราทำตามได้
อยู่ที่ไหนเราก็มีความสุขที่นั่น
ทุกวันนี้ ชาวพุทธเราไม่ขาดแคลนตำรา หรือคนที่จะสอนเลย
แต่เราขาดแคลนคนที่จะทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้ายิ่งนัก ขอให้เราเป็นหนึ่ง
ในท่านเหล่านั้น ที่จะทำตัวอย่างไว้ให้ลูก ทำถูกไว้ให้หลานได้ชื่นชม
เมื่อเราล่วงลับไปแล้วสมตามปณิธานของท่านพระมหากัสสป แม้ว่าท่านจะมีอายุยืนเพียง
๑๒๐ ปี ท่านก็ไม่เคยเปลี่ยนจุดยืนของท่านเลย แม้พระพุทธเจ้าจะตรัสขอก็ตาม สาธุ...