พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์

ธรรมรักษา

                TPD007

 

หลักตัดสินธรรมวินัย ๘

 

                พระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เมืองเวสาลี พระนางมหาปชาบดี เสด็จไปเฝ้าทูลขอให้ทรงแสดงธรรมโดยย่อ เพื่อหลีกออกปฏิบัติแต่ผู้เดียว พระพุทธองค์ทรงประทาน ลักษณะตัดสินธรรมวินัย ๘ ประการ ให้ทรงปฏิบัติ คือ

 

ธรรมเหล่าใดเป็นไปเพื่อ        ๑.  ความกำหนัด

๒.     ประกอบสัตว์ไว้ในภพ

๓.     ความสั่งสมกิเลส

๔.     ความมักมาก

๕.     ความไม่สันโดษ

๖.     ความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ

๗.     ความเกียจคร้าน

๘.     ความเลี้ยงยาก

 

พึงทราบเถิดว่า นั่นไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสั่งสอนของพระศาสดา

ส่วนธรรมเหล่าใดที่มีลักษณะตรงข้ามจากนี้ พึงทราบเถิดว่า นั่นเป็นธรรมเป็นวินัย เป็นคำสั่งสอนของพระศาสดา

 

สังขิตตสูตร ๒๓/๒๕๕

 

            ในเมืองไทย มักจะมีผู้อ้างตัวเป็นผู้รู้อยู่ทั่วไป มักจะอธิบายธรรมะ ตามความพอใจของตน ตีความธรรมะเอาตามใจชอบ ตั้งกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เอาตามความพอใจ แล้วก็อ้างว่าพระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้ พระสูตรนี้ จะเป็นหลักเปรียบเทียบได้อย่างดี

            เพื่อความสมบูรณ์ โปรดดูมหาประเทศ ฝ่ายพระวินัยและฝ่ายธรรมะด้วย ถ้าขัดแย้งกัน แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นของแปลกปลอมเข้ามาใหม่อย่ารับไว้ เพราะนอกจากจะทำให้เราเกิดความไขว้เขวปฏิบัติผิดแล้ว จะเป็นเหตุให้พระสัทธรรมเลือนหายด้วย

            การเผยแพร่ธรรมที่ถูกต้อง ไม่ว่าในการพูดหรือเขียน ควรจะมีหลักฐานที่มาที่ไปชัดเจน เพราะธรรมะต่าง ๆ ที่เราสอนและเรียนกันทั่วไปนั้น ล้วนเกิดจากการค้นพบของพระพุทธเจ้าทั้งหมด สาวกเป็นผู้สืบทอดต่อมา

            ในฐานะพุทธสาวกที่ดี ควรจะรักษาธรรมที่บริสุทธิ์ไว้ และเผยแผ่แต่ธรรมะแท้ อย่าได้ปลอมปนทิฐิของปุถุชนเข้าไปเลย จะเกิดบาปเสียเปล่า ถ้ายังอยากดังอยากเด่น ก็ควรที่จะตั้งตัวเป็นศาสดาองค์ใหม่ เสียให้รู้แล้วรู้รอดไป