ผู้มีศีลจักถึงแก่นธรรม

       ภิกษุ  ท.!เมื่อศีลมีอยู่  อวิปฏิสารของผู้สมบูรณ์ด้วยศีล  ก็ถึงอพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย,เมื่ออวิปฏิสาร มีอยู่  ความปราโมทย์ของผู้สมบูรณ์ด้วยอวิปฏิสารก้ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย, เมื่อความปราโมทย์มีอยู่ ปีติของผู้สมบูรณ์ด้วยความปราโมทย์ ก็ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย, เมื่อปีติมีอยู่ ปัสสัทธิของผู้สมบูรณืด้วยปีติ ก็ ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย,  เมื่อปัสสิทธิมีอยู่  สุขของผู้สมบูรณืด้วยปัสสัทธิ ก็ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย, เมื่อ สุขมีอยู่  สัมมาสมาธิของผู้สมบูรณ์ด้วยสุข ก็ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย,เมื่อสัมมาสมาธิมีอยู่ ยถาภูตญาณทัสสนะ ของผู้สมบูรณ์ด้วยสัมมาสมาธิ ก็ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย, เมื่อยถาภูตญาณทัสสนะ มีอยู่ นิพพิทาวิราคะของผู้ สมบูรณ์ด้วยยถาภูตญาณทัสสนะ ก็ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย, เมื่อนิพพิทาวิราคะมีอยู่ วิมุติญาณทัสสนะ ของผู้ ที่สมบูรณ์ด้วยนิพพิทาวิราคะ ก็ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย.

       ภิกษุ ท.! เปรียบเหมือนต้นไม้ ซึ่งสมบูรณ์ด้วยกิ่งและใบแล้ว สะเก็ดเปลือกงนอกของมันก็บริบูรณ์ เปลือกชั้นในก็บริบูรณ์  กระพี้ก็บริบูรณื แก่นก็บริบูรณ์ด้วย นี้ฉันใด ภิกษุ ท.!เมื่อศีลมีอยู่ อวิปฏิสารของผู้ สมบูรณ์ด้วยศีล  ก็ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย---ฯลฯ--- เมื่อนิพพิทาวิราคะมีอยู่ วิมุตติญาณทัสสนะของผู้ สมบูรณ์ด้วยนิพพิทาวิราคะ ก็ถึงพร้อมด้วยที่ตั้งอาศัย ฉันนั้นเหมือนกันแล.

๑. บาลี พระพุทธภาษิต ทสก. อํ. ๒๔/๔/๓.