ละได้จักอยู่เป็น "พระ"

       ภิกษุ  ท.!  ความคดทางกาย  ทางวาจา  ทางใจ, โทษทางกาย ทางวาจา ทางใจ, กิเลส เพียงดังน้ำฝาดทางกาย  ทางวาจา ทางใจ ของบรรพชิตพวกใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ยังละไม่ ได้แล้ว;  บรรพชิตพวกนั้น  ก็ต้องหล่นไปเองจากธรรมวินัยนี้ เหมือนล้อรถข้างที่ทำแล้วใน ๖ วัน ตั้ง ตรงไม่ได้ ต้องตะแคงล้มไป ฉะนั้น.

       ภิกษุ ท.! ความคดทางกาย ทางวาจา ทางใจ โทษทางกาย ทางวาจา ทางใจ, กิเลส เพียงดังน้ำฝาดทางกาย ทางวาจา ทางใจ ของบรรพชิตพวกใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม อันเธอละ ได้แล้ว;  บรรพชิตพวกนั้น  ก็ตั้งมั่นอยู่ได้เองในธรรมวินัยนี้  เหมือล้อรถข้างที่ทำแล้วนานถึง ๖ เดือน หย่อน ๖ วัน กลิ้งไปตั้งตรงอยู่ได้ไม่ล้ม ฉะนั้น.

       ภิกษุ ท.! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้ว่า "เราทั้งหลาย จักละ ความคดทางกาย, โทษทางกาย, กิเลสเพียงดังน้ำฝาดทางกาย; จักละความคดทางวาจา, โทษทาง วาจา, กิเลสเพียงดังน้ำฝาดทางวาจา; จักละความคดทางใจ, โทษทางใจ, กิเสเพียงดังน้ำฝาดทางใจ" ดังนี้. ภิกษุ ท.! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.

๑. บาลี พระพุทธภาษิต ติก. อํ. ๒๐/๑๔๒/๔๕๔.
๒. ล้อรถที่ช่างใช้ไม้ที่ไม่ดีทำและทำโดยความรีบร้อน ย่อมผิดกับล้อข้างที่ทำด้วยความประณีต และ มีเวลานานเป็นธรรมดา  อ่านเรื่องละเอียด  จากพุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ภาค ๖ ตอน "ครั้งมีพระ ชาติเป็นรถการ ช่างทำรถ".