พ่าฆ่าลูก

       กัสสะปะ!  ก็ในเวลานี้  พวกภิกษุชั้นเถระ  ไม่สมาทานการอยู่ป่าเป็นวัตร และทั้งไม่กล่าว สรรเสริญการกระทำเช่นนั้น,ไม่สมาทานการบิณฑบาตเป็นวัตร และไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำเช่นนั้น, ไม่สมาทานการใช้ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร และไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำเช่นนั้นล ไม่สมาทานการใช้จีวร เพียงสามผืนเป็นวัตร  และไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำเช่นนั้น,  ไม่จำกัดความต้องการให้มีแต่น้อย และไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำเช่นนั้น, ไม่สันโดษ และไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำเช่นนั้น, ไม่อยู่ สงบ และไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำเช่นนั้น, ไม่เป็นผู้อยู่อย่างไม่คลุกคลีกัน และไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำเช่นนั้น,  ไม่ปรารถความเพียร และไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำเช่นนั้น. บรรดาภิกษุชั้น เถระเหล่านั้น,  ภิกษุรูปใด เป็นคนมีชื่อเสียงคนรู้จักมาก มีเกียรติยศ มีลาภด้วยบริกขารคือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัช, พวกภิกษุชั้นเถระด้วยกันก็เชื้อเชิญให้นั้งเฉพาะภิกษุรูปนั้น ด้วยคำเป็นต้นว่า  "มาเถิดภิกษุ! ภิกษุรูปนี้ชื่อไร? ภิกษุนี้ช่างมีวาสนาจริง! ภิกษุรูปนี้เป็นทีรักของผู้ ประพฤติพรหมจรรย์ร่วมกัน. มาเถิดภิกษุ! นิมนต์ท่านจงนั่งอาสนะนี้" ดังนี้.

       กัสสปะ! ครั้นภิกษุชั้นเถระประพฤติกันอยู่ดังนี้, ความคิดก็เกิดขึ้นแก่พวกภิกษุผู้บวชใหม่ว่า ได้ยินว่า ภิกษุรูปใดมีชื่อเสียงคนรู้จักมาก  มีเกียรติยศ มีลาภด้วยบริกขารคือจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ คิลาปนัจจัยเภสัช, พระเถระทั้งหลาย ย่อมนิมนต์เธอนั้นด้วยอาสนะด้วยคำเป็นต้นว่ "มาเถิดภิกษุ! ภิกษุนี้ ชื่อไร?  ภิกษุนี้ช่างมีวาสนาจริง!  ภิกษุนี้เป็นที่รักของผู้ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยกัน.  มาเถิดภิกษุ! นิมนต์ ท่านจงนั่งอาสนะนี้" ดังนี้. พวกภิกษุผู้บวชใหม่เหล่านั้น ก็พากันประพฤติเพื่อให้เป็นเช่นนัน:; แบะข้อนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความทุกข์ ไม่เป็นประโยช์เกื้อกูลแก่พวกภิกษุเหล่านั้นเองสิ้นกาลนาน.

       กัสสปะ!  จริงทีเดียว  เมื่อใดใครจะกล่าวคำนี้ ให้ถูกต้องแก่กาละเทสะและบุคคล ว่า "พรหม- จารี ถูกยำยีเสียแล้ว ด้วยอันตรายอย่างของพรหมจารี; พรหมจารี ถูกร้อยรัดเสียแล้ว ด้วยเครื่องร้อยรัด อันยิ่งใหญ่อย่างของพรหมจารี" ดังนี้แล้ว เขาพึงกล่าวข้อความนั้นในกาลบัดนี้แล.

๑. บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๔๗/๔๙๖, ตรัสแก่ท่านพระมหากัสสปะที่เวฬุวัน.