ฉิบหายเพราะคลื่น

       ภิกษุ ท.! ภัย อันเกิดแต่คลื่น เป็นอย่างไรเล่า?

       ภิกษุ  ท.! ในกรณีนี้คือ คนบางคนมีศรัทธา ออกบวชจากเรือนไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือน เพราะคิด เห็นว่า "เราถูกความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ ใจ ความคับแค้นใจ ครอบงำเอาแล้ว เป็นคนตกอยู่ในกองทุกข์ มีทุกข์อยู่เฉพาะหน้าแล้ว ทำไฉน การทำ ที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ จะมีปรากฏมีได้" ดังนี้. ครั้นบวชแล้ว เพื่อผู้ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยกัน ย่อมว่า กล่าวตักเตือนเธอว่า  "ท่าน!  เป็นพระแล้ว  ต้องก้าวเดินด้วยท่าทางอย่างนี้ๆ, ตอ้งถอยกลับด้วยท่า ทางอย่างนี้ๆ,  ต้องแลดูด้วยท่าทางอย่างนี้ๆ,  ต้องเหลียวด้วยท่าทางอย่างนี้ๆ, ต้องคู้แขนคู้ขาด้วยท่า อย่างอย่านี้ๆ,  ต้องเหยียดมือเหยียดเท้าด้วยท่าทางอย่างนี้ๆ, ต้องนุ่งห่มจับถือซึ่งสังฆาฏิ บาตร จีวร ด้วยท่าทางอย่างนี้ๆ"  ดังนี้.  เธอนั้นหวนระลึกไปว่า  "เมื่อก่อน เราอยู่ครองเรือน ย่อมว่ากล่าวสั่ง สอนผู้อื่น,บัดนี้  พวกภิกษุคราวลูกคราวหลานของเรา  กลับมาคอยหาโอกาสว่ากล่าวตักเตือนเรา" ดังนี้ เธอก็ โกรธ แค้นใจ บอกเลิกสิกขา หมุนกลับคืนไปสู่เพศต่ำแห่งคฤหัสถ์.

       ภิกษุ  ท.!  ภิกษุชนิดนี้ เรียกว่า ผู้กลัวภัยอันเกิดแต่คลื่น แล้วจึงบอกเลิกสิกขา หมุนกลับคืนไปสู่ เพศต่ำแห่งคฤหัสถ์

       ภิกษุ  ท.! คำว่า ภัย อันเกิดแต่คลื่นนี้ เป็นคำแทนชื่อสำหรับเรียกความโรธคับแค้นใจ.

       ภิกษุ  ท.! นี้ เรียกว่า ภัย อันเกิดแต่คลื่น แล.

บาลี พระพุทธภาษิต จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๖๕/๑๒๒.