สมณะแกลบ

       ภิกษุ  ท.!พวกเธอทั้งหลาย จงขับบุคคลนี้ออกไปเสีย. ภิกษุ ท.! พวกเธอทั้งหลาย จงขับ บุคคลนี้ออกไปเสีย. จงนำบุคคลนี้ไปให้พ้น. ลูกนอกคอก ช่างทำให้ลำบากใจกระไร.

       ภิกษุ ท.! พวกนักบวชบางคน มีการเดิน การถอยกลับ การแลดู การเหลียวดู การคู้แขนคู้ขา การเหยียดมือเหยียดเท้า การทรงสังฆาฏิ ถือบาตร ครองจีวร เหมือน ๆ พวกภิกษุที่ดีรูปอื่น ๆ ทั้ง หลาย ชั่วเวลาที่ภิกษุทั้งหลายยังไมเห็นอาบัติของเธอ. เมื่อใดภิกษุทั้งหลายเห็นอาบัติของเธอเข้า เมื่อนั้นเขาทั้งหลายก็รู้จักเธอได้ว่า  "นี่เป็นสมณะอันตราย, เป็นสมณะแกลบ, เป็นสมณะขยะ มูลฝอย" ดังนี้ ครั้นคนทั้งหลายรู้จักเธอ ว่าเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็เนรเทศเธอออกไปนอกหมู่. ข้อนั้น เพราะอะไร?  เพราะคนทั้งหลายมีความประสงค์ว่า  "อย่าให้คนชั่วทำลายพวกภิกษุที่ดีอื่นๆ  ทั้ง หลายเลย" ดังนี้

       ภิกษุ  ท.!  เปรียบเหมือน ต้นข้าวผี ซึ่งออกรวงมีแต่แกลบ ไม่มีเนื้อในที่บริโภคได้ เกิด ขึ้นในนาข้าว  เต็มไปหมดในฤดูทำนา.  รากของมันลำต้นของมัน  ใบของมัน  ก็ดูเหมือน ๆ ต้น ข้าวยวะทั้งหลาย  ชั่วเวลาที่รวงยังไม่ออก,  เมื่อใด มันออกรวง เมื่อนั้น จึงทราบได้ว่า "นี่ เป็นต้นข้าวผี ซึ่งมีแต่แกลบ ไม่มีเนื้อในที่บริโภคได้" ดังนี้. ครั้นคนทั้งหลายทราบเช่นนี้แล้ว เขาก็ ช่วยกันทึ้งถอนพร้อมทั้งรากทิ้งไปให้พ้นนาข้าว. ข้อนั้นเพราะอะไร? เพราะคนทั้งหลาย มีความ ประสงค์ว่า "อย่าให้ต้นข้าวผีทำลายต้นข้าวยวะที่ดีอื่น ๆ ทั้งหลายเลย" ดังนี้;

       ภิกษุ ท.! ฉันใดก็ฉันนั้น : นักบวชบางคนในกรณีนี้ มีการเดิน การถอยกลับ การแลดู การ เหลียวดู การคู้แขนคู้ขา การเหยียดมือเหยียดเท้า การทรงสังฆาฏิ ถือบาตร ครองจีวร เหมือน ๆ พวกภิกษุที่ดีรูปอื่น  ๆ ทั้งหลาย ชั่วเวลาที่ภิกษุทั้งหลายยังไม่เห็นอาบัติของเธอ. เมื่อใด ภิกษุทั้ง หลายเห็นอาบัติของเธอเข้า  เมื่อนั้น  เขาทั้งหลายก็รู้จักเธอได้ว่า "นี่เป็นสมณะอันตราย, เป็น สมณะแกลบ, เป็นสมณะขยะมูลฝอย" ดังนี้ ครั้นคนทั้งหลายรู้จักเธอว่า เป็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็ เนรเทศเธอออกไปนอกหมู่. ข้อนั้นเพราะอะไร? เพราะคนทั้งหลาย มีความประสงค์ว่า "อย่าให้คนชั่ว ทำลายพวกภิกษุที่ดีอื่น ๆ ทั้งหลายเลย" ดังนี้.

       ภิกษุ ท.! เปรียบเหมือน กองข้าวเปลือก กงอใหญ่ ที่คนทั้งหลายกำลังโรยกันอยู่กลางลม, ในข้าวเปลือกเหล่านั้น ข้าวที่เป็นเมล็ดแท้ แข็งแกร่งก็ตกไปรวมกันอยู่กองหนึ่ง, ส่วนข้าวลีบที่เป็น แกลบ ลมก็พัดปลิวพาไป

       รวมเข้าเป็นอีกกองหนึ่ง, เจ้าของจึงเอาไม้กวาด ๆ ข้าวที่ลีบนั้นไปทิ้งเสีย. ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะเจ้าของมีความประสงค์ว่า "อย่าให้ข้าวลีบที่เป็นแกลบมาปนกับข้าวอื่น ๆ เลย" ดังนี้;

       ภิกษุ ท.! ฉันใดก็ฉันนั้น : นักบวชบางคนในกรณีนี้ มีการเดิน การถอยกลับ การแลดู การ เหลียวดู  การคู้แขนคู้ขา การเหยียดมือเหยียดเท้า การทรงสังฆาฏิ ถือบาตร ครองจีวร เหมือน พวกภิกษุที่ดีรูปอื่น ๆ ทั้งหลาย ชั่วเวลาที่ภิกษุทั้งหลายยังไม่เห็นอาบัติของเธอ เมื่อใ ภิกษุทั้งหลาย เห็นอาบัติของเธอเข้า  เมื่อนั้น  เขาทั้งหลายก็รู้จักเธอได้ว่า "นี่เป็นสมณะอันตราย, เป็นสมณะ แกลบ,  เป็นสมณะขยะมูลฝอย"  ดังนี้ ครั้นคนทั้งหลายรู้จักเธอว่าเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็เนรเทศ เธอออกไปนอกหมู่ข้อนั้นเพราะอะไร?  เพราะคนทั้งหลาย  มีความประสงค์ว่า "อย่าให้คนชั่ว ทำลายพวกภิกษุที่ดีอื่น ๆ ทั้งหลายเลย" ดังนี้

       ภิกษุ ท.! อนึ่ง เปรียบเหมือนบุรุษที่ต้องการ ถังไม้สำหรับใส่น้ำ ถือขวานที่คมเข้าไปในป่า. เขาเคาะต้นไม้ต่าง  ๆ  ด้วยขวาน.  บรรดาต้นไม้ต่าง ๆ เหล่านั้น ต้นไหนเป็นไม้เนื้อแข็ง มี แก่นตัน  ถูกเคาะด้วยขวาน ย่อมส่งเสียงหนัก ๆ, ส่วนต้นไม้ที่ผุไน น้ำซึมเข้าไปแช่อยู่ได้ จนเกิด เปื่อยผุขึ้นในตัวเอง  ถูกเคาะด้วยขวานเข้า  ก็ส่งเสียงดังก้อง,  บุรุษผู้นั้น จึงตัดต้นไม้เนื้อผูใน ชนิดนั้นที่โคน แล้วตัดปลายออก คว้านในทำให้เกลี้ยงเกลาอย่างดี ครั้นแล้วก็ใช้เป็นถังสำหรับใส่น้ำ ได้สำเร็จ;

       ภิกษุ ท.! ฉันใดก็ฉันนั้น : นักบวชบางคนในกรณีนี้ มีการเดิน การถอยกลับ การแลดู การ เหลียวดู  การคู้แขนคู้ขา การเหยียดมือเหยียดเท้า การทรงสังฆาฏิ ถือบาตร ครองจีวร เหมือน พวกภิกษุที่ดีรูปอื่น  ๆ  ทั้งหลาย ชั่วเวลาที่ภิกษุทั้งหลายยังไม่เห็นอาบัติของเธอ. เมื่อใด ภิกษุ ทั้งหลายเห็นอาบัติของเธอเข้า เมื่อนั้น เขาทั้งหลายก็รู้จักเธอได้ว่า "นี่เป็นสมณะอันตราย, สมณะแกลบ, เป็นสมณะขยะมูลฝอย" ดังนี้ ครั้นคนทั้งหลายรู้จักเธอว่า เป็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็ เนรเทศเธอออกไปนอกหมู่. ข้อนั้นเพราะอะไร? เพราะคนทั้งหลายมีความประสงค์ว่า "อย่าให้คน ชั่วทำลายพวกภิกษุที่ดีอื่น ๆ ทั้งหลายเลย" ดังนี้

       "เพราะอยู่รวมกัน จึงรู้จักกันได้ว่า คนนี้มีความปรารถนา ลามก มักโกรธ มักลบหลู่คุณท่าน หัวดื้อ ตีตนเสมือท่าน มีความริษยา มีความตระหนี่ และโอ้อวด.

       ในท่ามกลางชน เขาเป็นคนมีวาจาหวาน ปานสมณะที่ดีพูโ; แต่ในที่ลับคน ย่อมทำสิ่งที่คนชั่ว ซึ่งมีความเห็นต่ำทราม ไม่เอื้อเฟื้อ ระเบียบ พูดจาปลิ้นปล้อน โป้ปด เขาทำกัน ทุกอย่าง.

       ทุกคน พึงร่วมมือกันกำจัดเขาออกไปเสีย, ทุกคนพึงช่วยกัน ทึ้งถอนบุคคลที่เป็นดุจต้นข้าวผีนั้น ทิ้ง, พึงช่วยกันขับคนกลวงเป็นโพรงไปให้พ้น, พึงช่วยกันคัดเอาคนที่มิใช่สมณะ แต่ยังอวดอ้างตนว่า เป็นสมณะ ออกทิ้งเสีย ดุจชาวบ้านโดรข้าวเปลือกกลางลม เพื่อตัดเอาข้าวลีบออกทิ้งเสีย ฉะนั้น.

       อนึ่ง คนเรา เมื่อมีการอยู่รวมกันกับคนที่สะอาด หรือคนที่ไม่สะอาดก็ตาม ต้องมีสติกำกับอยู่ ด้วยเสมอ, แต่นั้นพึงสามัคคีต่อกัน มีปัญญาทำที่สุดทุกข์แห่งตนเถิด".

๑. บาลี  พระพุทธภาษิต  อฏฺฐก. อํ. ๒๓/๑๗๐/๑๐๐, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่ริมฝั่งสระ โบกขรณีคัคครา เนื่องจากมีภิกษุรูปหนึ่ง ถูกเพื่อนโจทย์ด้วยอาบัติแล้ว แกล้งปิดเรื่องของตนไว้ หรือ ชวนไถลพูดออกนอกเรื่องเสีย และแสดงท่าโกรธ ไม่พอใจออกมาให้เห็นชัด.
๒.  คำว่า ข้าวผี ในที่นี้ ความหมายเพียงข้าวที่มิใช่ข้าวที่ประสงค์ แต่มันมีลำต้นคล้ายข้าว เท่านั้น.
๓.  ศัพท์ว่า  ยวะ เป็นชื่อข้าวชนิดหนึ่ง ซึ่งมีในอินเดีย ไม่มีชื่อเรียกในภาษาไทย จึงต้อง เรียกทับศัพท์, นักศึกษาตะวันตก บางคนแปลว่า corn บางคนแปลว่า barley ล้วนแต่ยังเป็น ปัญหาทั้งนั้น
๔. อุปมาที่  ๓  นี้ หมายเอาแต่เพียงลักษณะของต้นไม้ที่แน่นตัน และต้นไม้ที่กลวงเป็นโพรง ดู ภายนอก คล้ายกันเท่านั้น, ไม่ได้เทียบคู่โดยตรง เหมือนอุปมาที่ ๑-๒