2. เลี้ยงนกป่า วิธีการนี้ชาวบ้านจะใช้เครื่องมือหลาย ๆ อย่าง เช่น
          2.1 ใช้กรงต่อนกหรือเพนียด โดยจะใช้นกตัวผู้ที่ร้องมาก เรียกนกเก่ง (เรียกนก คือ จะร้องสำนวนสั้นๆ เพื่อเชิญให้นกป่าเข้ามาต่อสู้กัน) ใส่ไว้ข้างในกรง เมื่อนกป่าได้ยินเสียงร้องก็จะบินโฉบลงไปใกล้กรงต่อและร้องต่อสู้กัน โดยจะกระพือปีก กระโดดไปมา มีอาการริก (ร้องขู่) จนกระทั่งนกป่าเข้าโจมตีโดยการจิกนกในกรงต่อ ก็จะถูก ตาข่ายดีดลงมาทับตัวเอาไว้


กรงต่อนกกรงหัวจุก

ข้อดี
ข้อเสีย
1. นกป่าที่ต่อได้มักจะเป็นนกหนุ่มที่ร้องเพลงเป็นแล้ว และสามารถดูรูปร่างออกแล้วว่าสวยงาม ถูกต้องตามลักษณะแค่ไหน เพลงร้องและน้ำเสียงเป็นอย่างไร เพราะขณะที่นกลงมาต่อสู้กัน นกจะร้องปะทะคารมกันก่อน เมื่อเราจับได้ก็เอาไปเลี้ยงให้เชื่องได้เลย
2. นกป่าที่โตในป่ามักจะมีจิตใจสู้เต็มร้อย จึงกล้าลงไปสู้กับนกในกรงต่อได้ กล่าวคือ เมื่อนกโตในป่า มันมีความเป็นเจ้าของพื้นที่เมื่อนกตัวอื่นบินพลัดหลงเข้าไปก็จะโดนไล่จิกตี จึงมีความลำพองว่าตัวเองเก่งเสมอ เมื่อเราเลี้ยงไว้จนเชื่อง นกตัวนั้นก็จะมีสัญชาตญาณใจสู้เหมือนเดิม และสามารถลงแข่งขันได้
1. นกป่ามีสัญชาตญาณการอยู่ในป่า หากินอยู่ในที่กว้างตามท้องไร่ท้องนา เมื่อเราจับมาเลี้ยงในกรง นกจะตื่นกลัวมาก และจะพยายามบินหนีตลอดเวลา อาจทำให้
- นกบินชนซี่กรง ทำให้จมูกแตกเป็นแผล มีเลือดออก และหายยาก เพราะนกจะบินชนตลอดเวลาที่คนเข้าไปใกล้
- นกบางตัวหาจังหวะการเต้นในกรงแคบๆ ไม่เจอ ไม่รู้จะกระโดดอย่างไร เพราะเคยบินอยู่ในทุ่งกว้าง เมื่อโดนขังจะทำให้นกตกใจกลัว พยายามบินหนีสุดชีวิต ทำให้บางตัวหมุนคอ หรือบิดคอ บางตัวตีลังกา จนเป็นนิสัยของนกตัวนั้นๆ ไป ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะที่ไม่ดีไม่นิยมกัน
2. ใช้เวลานานมาก อาจจะ 2 - 3 ปี หรือมากกว่านั้น หากเจ้าของไม่ได้เอาใจใส่ดูแลอย่างดีและสม่ำเสมอ ทำให้เสียเวลา ถ้าคิดจะเลี้ยงนกประเภทนี้ไว้แข่ง
     นกประเภทนี้หาซื้อได้ค่อนข้างยาก เพราะในปัจจุบันนกกรงหัวจุกในธรรมชาติมีเหลืออยู่น้อยมาก

 

     2.2 ใช้ตาข่ายหรือลอบจับนกป่าเป็นฝูง วิธีการนี้เป็นการจับนกป่าที่ทำให้ปริมาณนกกรงหัวจุกในธรรมชาติลดน้อยลงเร็วที่สุด จนปัจจุบันมีการห้ามและจับกุมผู้ค้านกแบบนี้กันแล้ว ตามที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า นกกรงหัวจุกจะอยู่รวมกันเป็นฝูง ตั้งแต่ไม่กี่ตัวจนถึงหลายร้อยตัว เมื่อตกเย็น นกจะบินลงไนพุ่มไม้ต่ำๆ และนอนรวมกันเป็นฝูง นักล่าก็จะซุ่มดูอยู่ห่างๆ พอตะวันตกดิน ความมืดเข้ามาแทนที่ นักล่าก็จะใช้อวนดักนก (เป็นตาข่ายเส้นเล็กสีดำ ขนาดใหญ่มาก) ขึงเป็นรูปปากแตร โดยใช้ปากอวนด้านกว้างอยู่ติดกับพุ่มไม้ และรอจนกระทั่งใกล้สว่าง ก็จะทำการไล่ต้อนนกไปในทิศทางที่มีอวนขึงอยู่ นกเหล่านั้นจะพยายามบินหนีไป จนกระทั่งบินเข้าไปติดอยู่ในอวนอีกด้านหนึ่งจนหมด นักล่าก็จะช่วยจับนกที่ได้ทั้งหมด เป็นการจับนกหมดทั้งฝูง ไม่เหลือเอาไว้ในธรรมชาติให้ขยายพันธุ์เลย ถือว่าเป็นวิธีที่เอาเปรียบนกมากเกินไป จากนั้นนักล่าจะเอาไปส่งที่ร้านขายนก และจัดแยกใส่กล่องไปขายต่างจังหวัดทั่วประเทศ


นกขังในกรงรวม

ข้อดี
ข้อเสีย
1. นกมีราคาถูก ประมาณตัวละ 100 - 300 บาท ถ้าผู้ขายคัดเลือกไว้แล้วก็ตกประมาณ 500 บาท
2. นกที่โตในป่าจะร้องเพลงเป็นแล้ว (แต่ละพื้นที่จะร้องไม่เหมือนกัน)
3. ถ้าดวงดีอาจจะเลือกได้นกที่เก่งอยู่ในฝูง แล้วนำมาเลี้ยงไม่นานก็เชื่อง สามารถลงสนามแข่งขันได้
1. ต้องใช้เวลาเลี้ยงนานมาก อาจจะ 2 - 3 ปี หรือมากกว่านั้น ถ้าผู้เลี้ยงไม่ได้ดูแลเอาใจใส่อย่างดีและสม่ำเสมอ
2. อาจเลือกได้นกที่ไม่สู้หรือนกตัวเมีย เพราะต้องไปนั่งเลือกเองจากกรงขังรวม ซึ่งรวมนกป่าไว้หลายร้อยตัว ทำให้เสียเงินไปไม่คุ้มค่า
3. หลังจากเลี้ยงมานาน 2 - 3 แล้ว ยังไม่แน่ว่านกตัวนั้นจะเก่ง มีใจสู้หรือไม่ ต้องเอาไปทดสอบในสนามอีกหลายๆ ครั้ง

เลี้ยงลูกนกหูดำ / เลี้ยงนกที่ผ่านการเลี้ยงมาแล้ว