หมาฮุย หรือ หมาขนฅำ (นิทานของชาวไทลื้อ)
นิทานเรื่องนี้ มีการดำเนินเรื่องบางตอนที่ละม้ายกับเรื่องในคร่าวซอเรื่อง สุวัณณเมฆะหมาขนฅำ
อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
เรื่องนี้มีว่ามีชายสูงอายุคนหนึ่ง เมื่อเมียเสียชีวิตไปแล้วก็รู้สึกว้าเหว่ จึงไปเอาหญิงคนหนึ่งชื่อกาไวมาเป็นเมีย
นางเมียกาไวคนนี้เกลียดชังเจ้าบุญปันซึ่งเป็นลูกเมียก่อน จึงหาทางใส่ความให้สามีแก่เอาลูกของตนไปทิ้ง
เสียในป่า ฝ่ายพ่อก็ตามใจเมียใหม่ จึงหลอกเจ้าบุญปันไปป่าด้วย พ่อจึงพาลูกเดินทางเข้าป่าลึก
ไปเห็น หลุมมันเก่าที่เขาขุดกินหัวแล้วก็เอาลูกโยนทิ้งลงในหลุมนั้น แล้วพ่อก็กลับบ้าน
บุญปันมีหมาแสนรู้อยู่ตัวหนึ่งชื่อหมาฮุย ซึ่งเมื่อหมาฮุยไม่เห็นเจ้าของของตนกลับมากับพ่อก็สงสัยจึง
ตามกลิ่นจากบ้านไปจนถึงหลุมมันที่เจ้าบุญปันตกอยู่ แล้วก็ไปกัดเอาเครือเชือกหย่อนไปให้เจ้าบุญปันให้ใช้
โหนขึ้นมาได้แล้วก็พากันกลับบ้านอย่างเดิม แม่ก็บ่นให้พ่ออีก เอาลูกไปปล่อยทำไมจึงกลับมา
แกพูดว่า อีกครั้งเราจะชวนไป
ตกวันต่อมา ฝ่ายแม่ก็ล่อลวงลูกว่าเราจะไปป่าเพื่อหาหมากส้มลูกหวาน แล้วก็ชวนเจ้าบุญปันเข้าป่า
ในทีนี้เจ้าบุญปันรู้ว่าแม่เลี้ยงเกลียดชังตนอยู่แล้วก็ชวนเอาหมาไปด้วยและไม่ยอมกลับบ้าน
คงเดินไปในป่า ตามยถากรรม บังเอิญมียักษ์สองผัวเมียพบเข้าก็เลยเก็บเอาไปเป็นลูกเลี้ยงทั้งหมาทั้งคน
พ่อยักษ์ก็สอน วิชาการและคาถาอาคมให้จนหมดภูมิของตน
ต่อมาวันหนึ่ง มีพญาเจ้าเมืองคนหนึ่งไล่กวางไปแล้วหลงเข้าไปเมืองยักษ์ ยักษ์ก็จับเอาไว้ได้ว่าจะ
กิน แต่พญาบอกว่าถ้ากินตนก็จะได้กินเพียงคนเดียว ถ้าให้ปล่อยตนไปก็จะยอมส่งลูกให้กิน
๗ วันต่อคนหนึ่ง แล้วยักษ์ก็ปล่อยพญาไป พอไปถึงบ้านเมืองก็จัดการทำปราสาทไว้นอกเมือง
แล้วเตรียมเอาลูกสาวส่งไป ให้ยักษ์กินตามสัญญา
ส่วนเจ้าบุญปันอยู่กับยักษ์พ่อแม่บุญธรรมนานแล้ว ก็อยากจะไปเที่ยวต่างเมือง ซึ่งพ่อและแม่บุญธรรม
ก็ไม่ขัดขวาง แล้วก็ยกเครื่องอาวุธ เช่น ดาบสรีกัญชัย เป็นต้นให้ลูก แล้วพ่อยักษ์ก็แนะนำให้ไปหาบ้านลุง
ของยักษ์ ซึ่งพ่อลุงเมื่อรู้ว่าเป็นหลานบุญธรรมก็ช่วยส่งไปเมืองคนโดยเอาเจ้าใส่อุ้งมือข้ามแม่น้ำให้ถึงบ้าน
แม่ย่าจ่าสวนชื่อว่าปิ่นคำ เจ้าอาศัยอยู่กับแม่ย่าจ่าสวนอยู่ถือว่าเป็นแม่ของตน
พอรุ่งเช้าเจ้าบุญปันก็เห็นพญาเจ้าเมืองแห่ลูกสาวมาเพื่อจะเอาไปให้ยักษ์กิน ผ่านกระท่อมน้อยของ
แม่ปิ่นคำ ส่วนเจ้าบุญปันเห็นลูกสาวพญาก็รู้สึกพอใจ พอถึงหัวค่ำแล้วเจ้าก็แต่งตัวถือดาบสรีกัญชัย
พร้อม เครื่องดนตรีคือ ซออู้ ไปแอ่วหานางที่ปราสาทแล้วนางลูกสาวพญาได้ยินก็บอกว่าเจ้าอย่าได้มาที่นี่
เดี๋ยว ยักษ์จะมากิน เพราะถึงกำหนดที่พ่อเอานางมาให้ยักษ์กิน ซึ่งยักษ์กินไปแล้ว
๖ คน ยังค้างแต่ตนผู้เดียว
ทั้งสองคุยกันได้ไม่นานนัก ก็มียักษ์มามากมายเหาะมาเพื่อจะกินนาง ส่วนเจ้าบุญปันเห็นเช่นนั้นจึง
เข้าต่อสู้และฆ่ายักษ์ตายไปเป็นอันมาก แล้วเจ้าบุญปันก็ขออำลานางเพื่อกลับบ้านแม่ปิ่นคำ
ก่อนที่จะไปนั้น นางก็เอามีดตัดชายผ้าสะไบให้เอาไปเพื่อเป็นของตอบบุญคุณที่ฆ่ายักษ์
ครั้นรุ่งเช้าพวกชาวบ้านชาวเมืองไปที่ปราสาท ก็ไปเห็นยักษ์ตายอยู่มากมายเช่นนั้น
ก็รีบไปแจ้งต่อ พญาเจ้าเมือง ส่วนพญาเจ้าเมืองก็ดีก็ไปแห่เอานางกับมาสู่บ้านสู่เมืองตามเดิม
แล้วไต่ถามข่าวว่าใคร คือผู้ที่มาช่วยฆ่าพวกยักษ์ ซึ่งนางก็บอกว่าจำไม่ได้ เพียงแต่ตนได้มอบชายผ้าสไบให้ไปเท่านั้น
ฝ่ายพญาเจ้าเมืองก็ประกาศเกณฑ์ให้ชายทุกคนเอาชายสะไบมาชุมนุมกัน จนชายคนสุดท้ายที่ต้องไป
แสดงตัวคือเจ้าบุญปัน ซึ่งเมื่อนำชายผ้าของนางมาต่อกับของเจ้าบุญปันก็พอดีกัน พญาก็อุสสาภิเษกให้เขา
สองคนเป็นผัวเมียกันตามประเพณี แล้วมอบบ้านเวนเมืองให้เป็นเจ้าเมืองแทน
เมื่อเจ้าบุญปันได้อยู่เป็นสุขแล้วก็ทำบุญ ให้สร้างศาลาหลังหนึ่งแล้วให้ทานข้าวของเงินทองเป็นอัน
มาก และให้เขียนรูปประวัติของตนและแม่เลี้ยงพร้อมด้วยหมาฮุยไว้ด้วย ส่วนพ่อและแม่สืบได้รู้ข่าวว่ามีคน
ทำบุญให้ทานมากก็อยากได้ จึงไปที่ศาลานั้น
ส่วนแม่เลี้ยงเมื่อเห็นรูปต่าง ๆ นานา อันเขียนติดฝาศาลา ก็นึกรู้ได้ว่าเป็นเรื่องของลูกติดผัวตัวก็
อายและกลัวตายจึงหลบหนีออกจากเมืองไป แต่ไปได้ไม่ไกล แผ่นดินแยกสูบเอาแม่เลี้ยงไปถึงอเวจีนรก
ส่วนเจ้าก็เอาพ่อของตนพร้อมทั้งแม่จ่าสวนอยู่กับด้วยตนอย่างแสนสำราญ
เจ้าบุญปันก็คิดถึงยักษ์ที่เป็นพ่อแม่บุญธรรมกับหมาฮุย ก็เลยไปเยี่ยมพ่อพญายักษ์
แล้วก็ขอเอาหมาฮุย คู่ชีวิตของเจ้ามาอยู่กับบ้านเมืองของตนและได้อยู่สุขสำราญไปจนชั่วอายุ
จาก ด้วยปัญญาและความรัก นิทานของชาวไทยวน นิทานของชาวไทลื้อ นิทานของชาว ไทใหญ่
นิทานของชาวไทเขิน