ผีม้าบ้อง (นิทานของชาวไทยวน)

 

ยังมีชายหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนกัน โดยที่คนหนึ่งมีผีม้าบ้องสิงอยู่ในร่างและจะแสดงตัวเมื่อส บโอกาส
วันหนึ่งทั้งสองไป "แอ่วสาว" คือไปสนทนากับหญิงสาวที่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในตอนกลางคืน เมื่อใกล้ จะถึงบ้านสาวที่ตนจะไปเยือน คนที่เป็นผีม้าบ้องก็บอกเพื่อนว่าตนจะไปถ่ายอุจจาระ และให้เพื่อนไปคุยกับ สาวก่อน หนุ่มที่เป็นเพื่อนผีม้าบ้องก็ไปสนทนากับหญิงสาวรอเพื่อนไปพลาง ครั้นเห็นว่าดึกแล้วก็กลับบ้านตามลำพัง
ในวันต่อ ๆ มาทั้งสองก็ชวนกันไปแอ่วสาวอีก พอมาถึงที่ดังกล่าว เพื่อนผีม้าบ้องก็ลาไปถ่ายอุจจาระ เสมอจนเขาสงสัย จึงเข้าไปสำรวจบริเวณนั้นในเช้าวันหนึ่ง เขาได้พบหัวควายแห้งมีรอยถูกเลียอยู่ในที่นั้น เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเพื่อนของตนเป็นผีม้าบ้องเพราะผีชนิดนี้ชอบเลียหัวควายแห้ง แต่เขาก็อยากพิสูจน์ว่าเพื่อนของเขาเป็นผีม้าบ้องที่มาเลียหัวควายนี้หรือไม่ จึงตำพริกขี้หนูไปทาที่หัวควายนั้น
ตกเย็นเขาก็ไปชวนเพื่อนคนนั้นไปแอ่วสาวด้วยกันอีก เมื่อทั้งสองเดินไปถึงที่ที่มีหัวควายแห้ง เพื่อนก็บอกว่าจะไปถ่ายอุจจาระอีก เขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านของสาวด้วยความกลัวและไปเล่าเหตุให้พ่อ ของสาวคน พ่อของสาวซึ่งรู้อาคมก็บอกให้เขาเข้าไปซ่อนอยู่ในห้อง แล้วก็รีบไปกลับหัวบันไดเอาข้างล่าง ขึ้นข้างบน เอาข้างบนลงข้างล่าง สักครู่หนึ่งก็มีเสียงคล้ายม้าวิ่งเข้ามาในบ้าน พ่อของสาวคนนั้นจึงบอกให้ ลูกสาวแอบลงไปเอาไข่ไก่ทั้งรังจากใต้ถุนบ้าน จากนั้นก็เรียกชายนั้นออกมาจากห้องแล้วมอบไข่และมีดให้ และบอกให้รีบกลับไปโดยเร็ว หากผีม้าบ้องวิ่งตามใกล้จะทันก็ให้โยนไข่ให้ทีละฟอง เมื่อไปถึงบ้านขึ้นบันได แล้วให้เอาไข่ที่เหลือเทลงที่นั่นหมดแล้วกลับบันไดบ้านและเอามีดนี้ฟันหัวบันได ชายหนุ่มทำตามที่พ่อของหญิง สาวสั่งความไว้ทุกประการ ผีม้าบ้องมาหยุดที่เชิงบันไดแล้วว่าบ้านนั้นใช่แล้วแต่บันไดไม่ใช่ จากนั้นก็วิ่ง หายไปทางหลังบ้าน สักครู่หนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้มาจากทางบ้านของเพื่อนคนนั้น เป็นสัญญาณว่าเพื่อน ผีม้าบ้องตายเสียแล้ว

ยังมีชายหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนกัน โดยที่คนหนึ่งมีผีม้าบ้องสิงอยู่ในร่างและจะแสดงตัวเมื่อส บโอกาส
วันหนึ่งทั้งสองไป "แอ่วสาว" คือไปสนทนากับหญิงสาวที่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในตอนกลางคืน เมื่อใกล้ จะถึงบ้านสาวที่ตนจะไปเยือน คนที่เป็นผีม้าบ้องก็บอกเพื่อนว่าตนจะไปถ่ายอุจจาระ และให้เพื่อนไปคุยกับ สาวก่อน หนุ่มที่เป็นเพื่อนผีม้าบ้องก็ไปสนทนากับหญิงสาวรอเพื่อนไปพลาง ครั้นเห็นว่าดึกแล้วก็กลับบ้านตามลำพัง
ในวันต่อ ๆ มาทั้งสองก็ชวนกันไปแอ่วสาวอีก พอมาถึงที่ดังกล่าว เพื่อนผีม้าบ้องก็ลาไปถ่ายอุจจาระ เสมอจนเขาสงสัย จึงเข้าไปสำรวจบริเวณนั้นในเช้าวันหนึ่ง เขาได้พบหัวควายแห้งมีรอยถูกเลียอยู่ในที่นั้น เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเพื่อนของตนเป็นผีม้าบ้องเพราะผีชนิดนี้ชอบเลียหัวควายแห้ง แต่เขาก็อยากพิสูจน์ว่าเพื่อนของเขาเป็นผีม้าบ้องที่มาเลียหัวควายนี้หรือไม่ จึงตำพริกขี้หนูไปทาที่หัวควายนั้น
ตกเย็นเขาก็ไปชวนเพื่อนคนนั้นไปแอ่วสาวด้วยกันอีก เมื่อทั้งสองเดินไปถึงที่ที่มีหัวควายแห้ง เพื่อนก็บอกว่าจะไปถ่ายอุจจาระอีก เขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านของสาวด้วยความกลัวและไปเล่าเหตุให้พ่อ ของสาวคน พ่อของสาวซึ่งรู้อาคมก็บอกให้เขาเข้าไปซ่อนอยู่ในห้อง แล้วก็รีบไปกลับหัวบันไดเอาข้างล่าง ขึ้นข้างบน เอาข้างบนลงข้างล่าง สักครู่หนึ่งก็มีเสียงคล้ายม้าวิ่งเข้ามาในบ้าน พ่อของสาวคนนั้นจึงบอกให้ ลูกสาวแอบลงไปเอาไข่ไก่ทั้งรังจากใต้ถุนบ้าน จากนั้นก็เรียกชายนั้นออกมาจากห้องแล้วมอบไข่และมีดให้ และบอกให้รีบกลับไปโดยเร็ว หากผีม้าบ้องวิ่งตามใกล้จะทันก็ให้โยนไข่ให้ทีละฟอง เมื่อไปถึงบ้านขึ้นบันได แล้วให้เอาไข่ที่เหลือเทลงที่นั่นหมดแล้วกลับบันไดบ้านและเอามีดนี้ฟันหัวบันได ชายหนุ่มทำตามที่พ่อของหญิง สาวสั่งความไว้ทุกประการ ผีม้าบ้องมาหยุดที่เชิงบันไดแล้วว่าบ้านนั้นใช่แล้วแต่บันไดไม่ใช่ จากนั้นก็วิ่ง หายไปทางหลังบ้าน สักครู่หนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้มาจากทางบ้านของเพื่อนคนนั้น เป็นสัญญาณว่าเพื่อน ผีม้าบ้องตายเสียแล้ว

 

ยังมีชายหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนกัน โดยที่คนหนึ่งมีผีม้าบ้องสิงอยู่ในร่างและจะแสดงตัวเมื่อส บโอกาส
วันหนึ่งทั้งสองไป "แอ่วสาว" คือไปสนทนากับหญิงสาวที่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในตอนกลางคืน เมื่อใกล้ จะถึงบ้านสาวที่ตนจะไปเยือน คนที่เป็นผีม้าบ้องก็บอกเพื่อนว่าตนจะไปถ่ายอุจจาระ และให้เพื่อนไปคุยกับ สาวก่อน หนุ่มที่เป็นเพื่อนผีม้าบ้องก็ไปสนทนากับหญิงสาวรอเพื่อนไปพลาง ครั้นเห็นว่าดึกแล้วก็กลับบ้านตามลำพัง
ในวันต่อ ๆ มาทั้งสองก็ชวนกันไปแอ่วสาวอีก พอมาถึงที่ดังกล่าว เพื่อนผีม้าบ้องก็ลาไปถ่ายอุจจาระ เสมอจนเขาสงสัย จึงเข้าไปสำรวจบริเวณนั้นในเช้าวันหนึ่ง เขาได้พบหัวควายแห้งมีรอยถูกเลียอยู่ในที่นั้น เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเพื่อนของตนเป็นผีม้าบ้องเพราะผีชนิดนี้ชอบเลียหัวควายแห้ง แต่เขาก็อยากพิสูจน์ว่าเพื่อนของเขาเป็นผีม้าบ้องที่มาเลียหัวควายนี้หรือไม่ จึงตำพริกขี้หนูไปทาที่หัวควายนั้น
ตกเย็นเขาก็ไปชวนเพื่อนคนนั้นไปแอ่วสาวด้วยกันอีก เมื่อทั้งสองเดินไปถึงที่ที่มีหัวควายแห้ง เพื่อนก็บอกว่าจะไปถ่ายอุจจาระอีก เขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านของสาวด้วยความกลัวและไปเล่าเหตุให้พ่อ ของสาวคน พ่อของสาวซึ่งรู้อาคมก็บอกให้เขาเข้าไปซ่อนอยู่ในห้อง แล้วก็รีบไปกลับหัวบันไดเอาข้างล่าง ขึ้นข้างบน เอาข้างบนลงข้างล่าง สักครู่หนึ่งก็มีเสียงคล้ายม้าวิ่งเข้ามาในบ้าน พ่อของสาวคนนั้นจึงบอกให้ ลูกสาวแอบลงไปเอาไข่ไก่ทั้งรังจากใต้ถุนบ้าน จากนั้นก็เรียกชายนั้นออกมาจากห้องแล้วมอบไข่และมีดให้ และบอกให้รีบกลับไปโดยเร็ว หากผีม้าบ้องวิ่งตามใกล้จะทันก็ให้โยนไข่ให้ทีละฟอง เมื่อไปถึงบ้านขึ้นบันได แล้วให้เอาไข่ที่เหลือเทลงที่นั่นหมดแล้วกลับบันไดบ้านและเอามีดนี้ฟันหัวบันได ชายหนุ่มทำตามที่พ่อของหญิง สาวสั่งความไว้ทุกประการ ผีม้าบ้องมาหยุดที่เชิงบันไดแล้วว่าบ้านนั้นใช่แล้วแต่บันไดไม่ใช่ จากนั้นก็วิ่ง หายไปทางหลังบ้าน สักครู่หนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้มาจากทางบ้านของเพื่อนคนนั้น เป็นสัญญาณว่าเพื่อน ผีม้าบ้องตายเสียแล้ว