ภูชี้ฟ้า
     ภู ชี้ฟ้า
   ภูนี้ถือเป็นภูน้องน้อย ที่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ส่งเข้าประกวดมิสทีนไทยแลนด์ทัวลิซึม เพราะว่ายังเป็นระดับวัยรุ่น วัยกระเตาะอยู่
     เทียบขนาด สัดส่วนแลัว ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย ถึงจะพัฒนาความพร้อมขึ้นไปประชันกับภูรุ่นพี่ๆ เช่น ภูหลวง ภูกระดึง ซึ่งถือเป็นรุ่นเดอะได้
   แต่เรื่องความสวยงามของภูชี้ฟ้านั้น ก็ไม่แพ้ใครในหล้าเหมือนกัน เพียงแต่ใครที่จะไปชม ไปสัมผัส อาจจะต้องออกแรงดุ่มเดินและปีนป่ายกันพอสมควร
   หนทางที่ภูชี้ฟ้าจะพัฒนาความพร้อม สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบการจัดการ ไปสู่ระดับประเทศนั้น ก็ยังพอมีแนวทางและความหวังอยู่ แต่การที่จะรักษาเนื้อรักษาตัวให้อยู่รอดปลอดภัยนั้น
น่าเป็นห่วงเหลือเกิน.....
   แรกเริ่มเดิมทีนั้น น้องฟ้าของเราเป็นเพียงสาวชาวไร่ตัวเล็กๆ ที่รักนวลสงวนตัวอยู่ติดชายแดนไทย-ลาว เมื่อมีการพัฒนาเส้นทางรถยนต์เลียบชายแดนขึ้นไป ก็มีผู้พบเห็นและเห็นถึงความงาม ไม่เว้นแม้กระทั่ง อ.ส.ท.ฉบับก่อนๆซึ่งก็ยังเอารูปเธอไปเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักกันทั่วเมืองไทย
เท่านั้แหละครับ
ภูชี้ฟ้าก็ทำท่าจะไม่ใช่ภูชี้ฟ้าคนเดิมต่อไป
เพราะคนแห่กันไปแบบมืดฟ้ามัวดิน
   ตั้งแต่แรกแล้วครับ ที่ผมเน้นว่า ภูชี้ฟ้าเป็นภูที่มีพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอยู่นิดเดียว เธอรับไม่ไหวหรอกครับ กับการที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนวันละเป็นร้อยเป็นพันไปเหยียบย่ำ....เหยียบย่ำ.....บนร่างกายของเธอ
   ภูน้อยๆก้ต้องพัฒนาแบบพอสมควร เที่ยวกันพอสมควร มีที่จอดรถกันพอควร ที่พักพอสมควร ร้านอาหารพอสมควร ขยะน้ำทิ้งกันพอสมควร ภาษาฝรั่งเขาบอกว่าต้องคำนึงถึง Resource Limitation หรือขีดจำกัดของสถานที่นั้นๆ    ถ้าหากทำได้ก็พอจะทะนุถนอมภูชี้ฟ้าให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนไปประชันกับภูอื่นๆ ได้ตลอดไป
   ขณะนี้ผู้คนที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามทำกันอยู่ อาทิ จังหวัดเชียงรายนำงบประมาณไปทำการก่อสร้างศาลา ห้องน้ำ ที่หมู่บ้านร่มฟ้าไทย ก่อนขึ้นภู มีอาสาสมัครดูแลในเรื่องการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ชาวบ้านมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มให้บริการบ้านพักในลักษณะกาแบ่งคิวกันรับนักท่องเที่ยว ถือเป็นที่พักในรูปแบบ Homestay ก็ว่าได้
   ฝ่ายวางแผน ททท. ก็กำลงัไปดำเนินการออกแบบ เสนอแนะแนวทางการพัฒนาว่าตรงไหนควรเป็นอะไร ที่จอดรถอยู่บริเวณไหน บริเวณๆหนควรพัฒนา บริเวณไหนควรอนุรักษ์ บริเวณควรพัฒนา ด้าน ททท. เชียงราย ก็คอยป่าวร้องอยู่เสมอว่า ไปเที่ยวกันน้อยๆ หน่อยเถอะ น้องฟ้ายังอยู่ที่นี่ เธอไม่หนีไปไหนหรอก
   เหตุการณ์ก็ทำท่าจะพอไปไหว
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ผมเห็นภาพภูชี้ฟ้าบนหนังสือพิมพ์แล้วแทบจะหงายหลัง

   เป็นภาพโฆษณารถยี่ห้อหนึ่ง ที่ทะเล่อทะล่าไปจอดเด่นเป็นสง่า ทำท่าเป็นไลออนคิง ก็ไม่ทราบได้อยู่บนยอดภูชี้ฟ้า
   สงสารฟ้าเหลือเกิน
   ทำมั้ยทำไมเมืองไทยพื้นที่มากมายห้าแสนกว่าตารางกิโลเมตร มีพื้นมี่ทุรกันดารอยู่ก็เยอะ ทำไมไม่ไปโฆษณา ทำไมมาทำกับน้องฟ้าเช่นนี้
   คนอื่นเขาพยายามสร้างค่านิยมแทบเป็นแทบตาย ว่าให้อนุรักษา อนุรักษ์ธรรมชาติ ที่ที่ควรหวงแหนก็ควรมีกรอบมีวงป้องกันไว้
นี่พ่อเล่นมาทำลายด้วยรอยยางรถยนต์
ด้วยภาพเพียงภาพเดียว
ด้วยสมองที่คิดอะไรมักไม่ยากท่าเดียว
   ลองนึกดูเอาเองนะครับ ต่อไปเมืองไทยของเราคงจะมีโฆษณารถมอเตอร์ไซด์วิบากไปอยู่บนพระปรางค์วัดอรุณฯ มีภาพรถบัสทัศนาจรไปจอดชมวิวบนภูกระดึง ภาพเครื่องบินส่วนตัวไปจอดสุมหัวกันที่เขาตะปู เป็นต้น
   สงสารภูชี้ฟ้าตัวดำๆ บ้างเถอะ ปัจจุบันนี้เธอก็ถูกย่ำยีจากรอยเท้านักท่องเที่ยวอยู่ทุกวี่วันแล้ว เธอเกิดมาเป็นธรรมชาติ ก้มหน้าก้มตารับใช้มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆๆ โดยไม่เอ่ยปากสักคำ
นี่ถ้าเธอพูดได้ เธอคงพูดว่า

จากบทความในหนังสือสารคดี ฉบับเดือนพฤษภาคม 2538 ในคอลัมน์พัฒนาท่องเที่ยว โดยสุวัฒน์ คุ้มวงศ์
Home