INTERVIEW

รู้จักตัวจริง จักรกฤษณ์ กิตติวุฒิศักดิ์ สุดยอดหนุ่มโสดในฝัน 2002

หนุ่มเฟิสท์ คนนี้เกิดที่กำแพงเพชร โตที่เชียงใหม่ ปัจจุบันอยู่ที่พิษณุโลก ผ่านมา 21 ร้อน 21 หนาว แต่ก็มีเกร็ดต่าง ๆ ในชีวิตที่น่าสนใจพอตัว ชักอยากรู้จัก เฟิสท์ ให้มากขึ้นกว่านี้แล้วล่ะสิ งั้นเรามาติดตามบทสัมภาษณ์หนุ่มเฟิสท์ คนนี้กันดีกว่า

ช่วยเล่าเรื่องราวตอนเด็ก ๆ หน่อยได้มั๊ยครับ เอาตั้งแต่จำความได้เลยนะครับ

คงเป็นตอนอยู่กำแพงเพชรน่ะครับ อายุเท่าไหร่จำไม่ได้แต่รู้ว่ายังเล็กมาก ไปอยู่เนิร์สเซอรี่วันแรกนี่ตอนที่พ่อแม่ เอาไปส่งวันแรกนี่ร้องไห้มากเลยครับแต่จำได้ว่าเราตั้งใจร้องให้เค้ามารับเรากลับน่ะครับ 555 แบบว่าร้องแบบ สุด ๆ เลย แล้วความพยายามของเราก็เป็นผลสำเร็จ อิอิอิ

แล้วเฟิสท์ได้เรียนที่กำแพงเพชรรึเปล่าครับ

ครับ ได้เรียนครับ แต่จำไม่ได้ว่าเรียนนานเท่าไหร่ครับ เรียนที่โรงเรียนจงสวัสดิ์ ครับ จำได้แม่นยำเลยครับ

แสดงว่ามีอะไรที่ประทับใจอยู่ บอกได้รึเปล่าครับ

ใช่ครับ ประทับใจมาตราบจนทุกวันนี้เลยครับ คือวันก่อนที่บ้านผมจะย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่น่ะครับ เพื่อน ๆ ครู ก็ มีของขวัญมาให้ผม รู้สึกดีใจมาก แต่คงไม่ขนาดร้องไห้ น้ำตาไหลอะไร แต่ที่ดีใจไม่ใข่ซาบซึ้งที่ครู และเพื่อนมีน้ำใจ กับผมหรอกนะครับ แต่ดีใจที่ได้ของขวัญมากกว่า 5555

จำได้รึเปล่าครับ ว่าได้อะไรบ้าง

แน่นอนครับ จำไม่ได้ ไม่ใช่ จำได้แต่ไม่ทั้งหมดครับ จำได้ว่าพอกลับมาถึงบ้านเนี่ย ที่บ้านกำลังขนข้าวของขึ้นรถ บรรทุก เราก็เอาของขวัญมาแกะ มีขนมคุกกี้อิมพีเรียลรถเนยถั่วหรืองัยนี่แหละครับ แล้วก็ตุ๊กตาไขลานเป็นรูป เทพของจีนน่ะครับ ชื่อ สิ้ว หรืองัยนี่แหละครับ ที่หัวล้าน ถือไม้เท้าห้อยลูกท้อน่ะคับ ดีใจมากกกกกกก ขนมก็อร่อย แต่ตุ๊กตาก็หายไปถึงไหนต่อไหนแล้วมั๊ง 555 เนี่ยแหละครับ เลยทำให้ผมจำได้จนทุกวันนี้น่ะครับ

หลังจากนั้นก็ย้ายบ้านไปอยู่เชียงใหม่

ใช่ครับ ย้ายไปอยู่แถว ถ.ช้างเผือกเกือบถึงแจ่งศรีภูมิ ความทรงจำที่บ้านหลังนั้นไม่ค่อยมีเท่าไหร่ครับ ที่จำได้ก็ กลืนหมากฝรั่งลงคอแต่ไม่เห็นจะเป็นอะไรเหมือนที่ใครเค้าบอกเลยว่าหมากฝรั่งจะพันคอน่ะครับ แต่เป็นความสามารถ เฉพาะตัวนะครับ ห้ามเลียนแบบ 5555

ได้ยินมาว่า น้องสาวซึ่งตอนนั้นเป็นเด็กแบเบาะอยู่ กลิ้งตกบันไดที่บ้านนั้น

อ่อ ใช่ครับ เรื่องนี้จะได้ยินแม่ผมเล่าให้ลูกค้าฟังบ่อย ๆ ก็คือ จะมีพี่เลี้ยงของน้องสาวน่ะครับ เค้าจะสำอาง รัก สวยรักงามมากเลยครับ ขณะที่กำลังแต่งหน้าทาปากอยู่ น้องสาวผม ก็กลิ้งตกบันไดลงมาจากชั้นสองน่ะครับ ก็ ร้องไห้เสียงดังมาก พี่เลี้ยงก็ยังไม่รู้เรื่อง แม่ผมกำลังทำผมให้ลูกค้าอยู่ก็วิ่งมาดู ก็อุ้มน้องผมไป เห็นพี่เลี้ยงยัง แต่งหน้าอยู่ก็ตี ๆๆๆๆๆ พี่เลี้ยงด้วยความโมโหน่ะครับ แล้วก็ไล่ออกไปเลย น้องสาวผมแค่ฟกช้ำดำเขียวแค่นั้น เอง หัวแข็งมาก 5555

มาอยู่เชียงใหม่แล้วชีวิตการเรียนที่นั่นเป็นงัยบ้างครับ

ครับ ก็มาเข้าอนุบาลน่ะครับ ชื่อ โรงเรียนอนุบาลสายดรุณครับ ตอนเด็ก ๆ จะเรียนไม่เก่งเลยครับ ก็จะมีอาจารย์ยาย เป็นคนที่ผมไม่ชอบเลยครับ เพราะเวลาเค้าถามคำถามแล้วตอบไม่ถูกจะโดนเอาลิปสติกมาทาปากครับ ไม่ดีเลย เป็นการยัดเยียดความไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นให้แก่เด็กไทย จะโดนบ่อยมาก ก็จะร้องไห้ไปเลย กลับบ้านมาแขนเสื้อมีแต่รอยสีแดงๆ ตอนเด็ก ๆ เจ้าน้ำตามากเลย ยอมรับ

ตอนนั้นทำกิจกรรมอะไรบ้างมั๊ยครับ

เป็นนักดนตรีวงดุริยางค์ของโรงเรียนครับ ตีกลองใหญ่น่ะครับสนุกดีครับ ต้องมาซ้อมเดินสวนสนามทุกเช้าเลย ครับ ชอบมาก มีครั้งนึงที่ต้องร่วมขบวนสดุดีพระปิยมหาราช 23 ตุลาคมครับ ตื่นเต้นมากกกกกกก มีผู้ปกครอง มาดูกันเยอะะะะ ตอนที่จะเคลื่อนขบวนออกจากโรงเรียนนี่ผมตีกลองแรงรึเปล่าก็ไม่นะ แต่ไม้กลองมันหักเลยอะครับ คุณครูต้องรีบเอาไม้มาเปลี่ยน ระหว่างรอผมก็เอามือตีกลองไปก่อน แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าครับ เก่งป่าว อิอิอิ

(หมั่นไส้) เออ แล้วต่อจากอนุบาลล่ะครับ

ก็เรียน ป. 1 ที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เชียงใหม่ครับ ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรแล้วครับ ตอนเรียนก็แย่มากกกกก เป็นเด็กขี้เกียจครับ การบ้านไม่ค่อยทำ โดนครูตีตลอดเลย จนป. 5 น่ะครับ ผลการเรียนก็ออกมาปานกลาง (แบบฟลุ๊ค ๆ) พอ ป. 6 เริ่มเรียนเก่งเฉยเลย แบบว่าอยากเรียน ม. 1 ที่มงฟอร์ตต่อมั๊ง ภาษาอังกฤษนี่จะเก่งมากเลย ไม่ได้โม้ สอบเลื่อนชั้นตอนนั้นได้เกรด 4.00 แบบ งง ๆ

ก็เลยผ่านมาถึงมัธยมแบบ งง ๆ

ครับ งง แต่ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นเด็กมงฟอร์ตต่อครับ การเรียนอยู่ในระดับปานกลางครับ อันนี้จะไม่ขึ้เกียจเท่าตอนอยู่ ประถมครับ ช่วงนี้จะได้ไปเรียน AUA แล้วครับ ภาษาอังกฤษเริ่มเก่งขึ้นเลยรู้สึกว่าเราต้องพยายามทำคะแนนให้ดี ๆ แล้วนะ อีกอย่างนึงก็คือ ต้องเก็บเกรดสะสมเผื่อจะได้โควต้าเรียน ม . 4 ครับ เอยูเอนี่เรียนจบตอน ม. 3 ก็รู้สึกว่าภาษาอังกฤษ เราก็เป็นหนึ่งในตองอูแล้วนะ พอจบ ม. 3 ก็ไม่ได้โควตาครับ ก็คิดว่าดีแล้ว เราคงไม่เหมาะที่จะเรียนทางสายวิทย์ ก็สอบเข้าสายศิลป์ฝรั่งเศสครับ ไม่ต้องลุ้นเลยครับ สบายมากเลย แล้วชีวิตม.ปลายก็เริ่มขึ้นอย่างใจจดใจจ่อครับ

คลิกที่นี่เพื่อไปยังหน้าต่อไปครับ