Proud to be Ex-Pys

Article from SSEAYP 2003 AYL  : The Homestay Impression

   

พสุภา ชินวรโสภาค
SSEAYP 2003
Assistant Youth Leader

   

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพริบบิ้นสีรุ้งไขว้ไปไขว้มาจากมือคนบนเรือที่ยืนเบียดเสียดกันโยงสู่คนบนฝั่ง ภาพน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของ “เด็กเรือ” ทั้งชายและหญิงเมื่อเรือค่อยๆเคลื่อนตัวออก เสียงตะโกนบอกความรัก ความห่วงใยถึงผู้คนที่อยู่ข้างล่าง แม้ว่าคนเหล่านั้นจะได้ยินหรือไม่ก็ตาม พร้อมกับเสียง ก็อง ก็อง ก็อง จากระฆังบนเรือที่ดังกังวานขึ้น ราวกับจะบอกว่า

….เราจะต้องเดินทางกันต่อแล้วล่ะ ฉันรู้ความรู้สึกของพวกเธอ ว่ายังอยากอยู่ต่อกับครอบครัวใหม่ที่พวกเธอรู้สึกสนิท รู้สึกผูกพัน ราวกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกันมานาน แม้ว่าจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพียง 2 วันก็ตาม ทำไมฉันจะไม่รู้ ฉันผ่านความรู้สึกนี้มานับปีนี้ ก็ 30 ครั้งแล้ว ฉันภูมิใจที่พวกเธอประสบความสำเร็จในการสร้างความเข้าใจอันดีกับผู้คนประเทศนี้ …วันนี้เธอเป็นลูกคนหนึ่งของประเทศนี้แล้ว เธอมีครอบครัวในประเทศนี้ เป็นหน้าที่ของพวกเธอที่จะต้องรักษาและสานความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนี้ต่อไป…และฉันก็หวังว่าจากประสบการณ์นี้ เธอจะขยายผลต่อไปยังคนอื่นๆ ชาติอื่นๆ ให้เกิดความรัก ความเข้าใจกันมากขึ้น… .

เรือค่อยๆ ห่างฝั่ง แรงดึงของริบบิ้นในมือก็ตึงขึ้นเรื่อยๆ จนขาดลอยหลุดไปในที่สุด พร้อมกับภาพพวกเราที่บ้างก็วิ่งไปท้ายเรือ บ้างก็วิ่งไประเบียงชั้นบนของเรือเพื่อหาที่ยืนที่จะเห็นฝั่งได้ชัดที่สุด เพื่อเก็บภาพแห่งความทรงจำ ความประทับใจนี้ไว้ให้นานเท่านาน ภาพที่เราโบกมือลา “ครอบครัวของเรา” โบกมือลาประเทศที่เราเกิดคำมั่นในใจว่าจะกลับมาอีกครั้ง ภาพพ่อ แม่ พี่ น้อง บนฝั่งวิ่งมาจนสุดท่าเรือเพื่อส่งสมาชิกของครอบครัวเขาให้สุดสายตาเช่นกัน วันนี้ธงทั้ง 11 ชาติที่โบกคละกันไปมา ดูกลมกลืนกันไปหมด สายลมที่พัดแรงขึ้น ขณะที่เรือค่อยๆ แล่นเร็วขึ้น ราวกับจะย้ำว่า

…วันนี้… กับความรู้สึกที่ไม่มีความเป็นประเทศฉัน ประเทศเธอ ไม่มีความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติและศาสนา ไม่มีความแตกต่างทางความคิด ทุกคนมีความรู้สึกเดียวกัน คือความรักและความผูกพัน ทั้งๆที่เมื่อ 2 วันก่อนต่างคนต่างยังเป็นคนแปลกหน้าต่อกันอยู่ ภาพที่เธอร่ำไห้ ร่ำลากับครอบครัวเมื่อถึงคราวจะต้องกลับขึ้นเรือ ภาพที่เธอและเพื่อนกอดกันร้องไห้ขณะที่เรือแล่นออกจากฝั่ง ภาพเธอ 2 คนในเสื้อผ้าต่างแบบต่างสี ธง 2 ชาติในมือเธอ 2 คน กับความรู้สึกที่มีร่วมกัน เป็นภาพที่งดงามเกินกว่าจะบรรยาย …ฉันได้ยินเพื่อนประเทศเจ้าภาพที่เธอกำลังจากมาถามไถ่เธอถึงประสบการณ์ในประเทศของเขา ฉันได้ยินเธอขอบคุณและบอกว่าเธอมีวันเวลาแห่งความสุขในประเทศนี้มากแค่ไหน ฉันเห็นสีหน้ายิ้มรับของเพื่อนเธอ ขณะที่บอกกับเธอว่า “ฉันดีใจที่เธอมีความสุขในบ้านของฉัน ซึ่งก็เป็นบ้านของเธอด้วยเช่นกัน” …ฉันขอให้เธอเก็บความรู้สึกรัก ความรู้สึกผูกพันนี้ไว้ เผื่อว่าวันข้างหน้า เมื่อเธอเติบใหญ่ขึ้น และเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างคนด้วยกัน เธอจะยังจำความรู้สึกในวันนี้ไว้เตือนตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงว่าอีกฝ่ายก็เป็นคนเหมือนกับที่เธอเป็น เป็นคนเหมือนกับคนที่ครั้งหนึ่งเธอไม่เคยรู้จัก แต่เธอก็สามารถรักและนับพวกเขาเป็นครอบครัวของเธอได้….

นี่คือหนึ่งในความมหัศจรรย์ของโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ที่สามารถสร้างความรัก ความผูกพันธ์ ความรู้สึกฉันครอบครัวเดียวกันระหว่างคนแปลกหน้า ต่างชาติ ต่างภาษาให้เกิดขึ้นได้ในชั่วเวลาข้ามวัน

ฉันหวังว่าตัวอักษรที่เรียงร้อยเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 46 วันของการเป็น “เด็กเรือ” จะถ่ายทอดและแบ่งปันประสบการณ์ที่ฉันได้รับให้กับคนอื่นๆ ได้สัมผัสถึงความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกันแม้จะไม่ใช่เป็นประสบการณ์ตรงก็ตาม และคงจะรู้สึกอิ่มใจ หากบันทึกนี้จะช่วยให้ “เด็กเรือ” ย้อนรำลึกถึงวันวารแห่งความสุขเหล่านั้นอีกครั้ง

ไม่ว่าวันเวลาของคุณจะผ่านมากี่ปีแล้วก็ตาม ฉันเชื่อว่า ทุกๆช่วงเวลาครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ จะยังเด่นชัดในความทรงจำของคุณ ราวกับคุณเพิ่งจะก้าวลงจากเรือนิปปอนมารูด้วยชุด Attire A1 เมื่อวานนี้เอง