รายวิชาพระพุทธศาสนา
ส ๐๑๑๐
๒ คาบ /
สัปดาห์ /ภาค ๑
หน่วยการเรียน
..........................................................................................................
พระพุทธศาสนา
หลังจากพระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว
ก็มีพระประสงค์อยากให้ผู้อื่นรู้ตามพระองค์เพื่อที่จะได้พันทุกข์ได้พบกับความสุขที่แท้จริงจึงเสด็จออกประกาศ
พระศาสนา
ทำให้พระพุทะศาสนาได้เจริญรุ่งเรื่องแผ่ขยายไปยังดินแดนต่าง
ๆ
ของทวีปเอเเซีย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดินแดนสุวรรณภูมิ
ซึ่งพระพุทธศาสนาได้กลาย
เป็นศาสนาประจำชาติและเป็นรากฐานของวัฒนธรรมประเพณีของประเทศต่าง
ๆ
ในภูมภาคเหล่านี้
นอกจากนี้ยังสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศเที่นับถือพระพุทธ
ศาสนาเหมือนกันอีกด้วย
พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้าน
๑.พระพุทธศาสนาในประเทศพม่า
พระพุทธศาสนาเข้าสู่พม่าในระยะแรกเป็นแบบนิกายเถรวาท
โดยผ่านเข้ามาทางดินแดนของมอญ
ต่อมาพระเจ้า
อนุรุทรมหาราชหรืออโนรธามั่งช่อขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ของพม่า
พระองค์ทรงศรัทธาเลื่อมใสนิกายเถรวาทมาก
เมื่อทราบว่าพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทในดินแดนมอญเจริญรุ่งเรืองจึงได้ส่งฑูตไปทูลขอพระไตรปิฏกจากมอญ
แต่กษัตริย์มอญไม่ยินยอม
จึงเกิดสงครามระหว่างพม่ากับมอญฝ่ายพม่ชนะได้นำพระสงฆ์จากมอญและพระไตรปิฏกไปไว้ที่พม่า
เป็นผลให้พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทได้เจริญแผ่ขยายไปทั่วอาณาจักรพม่า
จนกระทั่งพม่าเสียเอกราชให้แก่อังกฤษ
ในปัจจุบันอาณาจักรพม่ายังคงนับถือพระพุทธศาสนาอยู่
๒.พระพุทธศาสนาในประเทศเขมร
(กัมพูฃา) พระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้าสู่ประเทศกัมพูชาประมาณพุทธศตวรรษที่
๘
ซึ่งเดิมนั้นกัมพูชานับถือนับถือศาสนาพราหมณ์อยู่แล้ว
ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมนที่
๗
พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก
มีการสร้างวัดวาอารามและวิหารพระพุทธศาสนาทั่งราชอาณาจักร
ต่อมากัมพูชาเสื่อมอำนาจลงเพราะต้องทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านบ้าง
สงครามแย่งชิงราชสมบัติกันเองบ้าง
มีผลทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมลงไปด้วย
พระพุทธศาสนาในกัมพูชาฟื้นฟูอีกครั้งหนึ่งในสมัยของพระเจ้าหริรักษ์รามาธิบดี(นักองค์ด้วง)
เพราะได้รับการช่วยเหลือจากไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
โดยพระภิกขุชาวกัมพูฃาเข้ามาศึกษาในประเทศไทยและได้นำเอานิกายธรรมยุติจากเมืองไทยไปประดิษฐานในกัมพูชา
เมื่อกัมพูชาตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส
พระพุทธศาสนาก็ไม้ได้รับการทำนุบำรุงมากนัก
จนเมื่อกัมพูชาได้รับเอกราชและเปลี่ยนการปกครองเป็นระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์
พระพุทธศาสนาก็เสื่อมลงอย่างมาก
ปัจจุบันพระพุทธศาสนาในกัมพูชามีแนวโน้มดีขึ้นเพราะสงครามกลางเมืองในกัมพูชาเริ่มสงบลง
ทำให้ชาวกัมพูชามีโอกาศประกอบพิธีกรรมทางศาสนามากขึ้น
๓.พระพุทธศาสนาในประเทศเวียดนาม
เวีนยดนามได้รับพระพุทธศาสนานิกายมหายานจากจีนเพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของจีนต่อมาภายหลังได้รับพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทจากไทยและเขมร
เมื่อตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสมีชาวเวียดนามบางส่วนหันไปนับถือคริสต์ศาสนา
พระพุทธศาสนาได้รับการขัดขวางและถูกทำลาย
ต่อมาเมื่อเวียดนามตกอยู่ภายใต้การปกครองระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสน์
ยิ่งทำให้พระพุทธศาสนาในเวียดนามเสื่อมลงถึงขีดสุด
ในปัจจุบันรัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการ
เข็มงวดในการนับถือพระพุทะศาสนาลงบ่าง
แต่ไม่ได้รับผลสำเร้จมากนัก
เพราะมีพระสงฆ์เหลืออยู่น้อยมาก
และชาวเวียดนามรุ่นใหม่ก็นิยมเข้านับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนใหญ่
๔.พระพุทธศาสนาในประเทศลาว
พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศลาวในสมัยของเจ้าฟ้างุ้มผู้ตั้งอาณาจักรล้านช้าง
เป็นพระพุทธสาสนานิกายเถรวาทเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ
ในภูมิภาคนี้
ต่อมาเมื่อลาวตกเป้ฯเมืองขึ้นของฝร่งเศส
พระพุทธศาสนาได้เสื่อมลงเพราะขาดการทำนุบำรุง
แต่ยังเป็นศาสนาสำคัญของประชาชนลาว
การนับถือพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน
หลังจากที่ได้รับเอกราชจากฝร่งเศส
รัฐบาลได้มีการปรับปรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาแบบอย่างคณะสงฆ์ของไทยต่อมาในปีพ.ศ.2518
ลาวได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์
มีผลทำให้พระพุทธศาสนาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก
พระสงฆ์มีหน้าที่ช่วยเผยแผ่คำสอนตามลัทธิการเมืองและอุดมกาณ์ของรัฐ
วิธีการดังกล่าวทำให้พระพุทธศาสนาในลาวนั้นเสื่อมลงไปอีก
๕.พระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเซีย
มาเลเซียได้รับอิทธิพลของพระพุทธศาสนาแบบมหายาน
จากอาณาจักศรีวิชัยต่อมาเมื่ออาณาจักรสุโขทัยแผ่อำนาจลงไปถึงเมืองนครศรีธรรมราชตลอดจนถึงแหลมมลายู
จึงทำให้บริเวณนั้นนับถือพระพุทธศาสนาแบบเถรวาททั้งสิ้น
ปลายพุทธศตวรรษที่
๒๐
ศาสนาอิสลามได้เข้ามามีอิทธิพลในดินแดนมลายู
เป็นผลให้พระพุทธศาสนาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก
และศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ
จนในที่สุดมาเลเซียตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
และหลังจากที่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ
ได้มีคณะสมณฑูตจากไทย
ศรีลังกา
พม่า
เดินทางเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทในมาเลเซีย
ทำให้พระพุทธศาสนาได้ฟื้นฟูขี้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนา
ได้แก่ชาวจีน
ศรีลังกา
และไทย
อาศัยอยู่ในรัฐที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของไทย
เช่นกลันตัน
ตรังกานู
เคดาห์
และปะริส
ปัจจุบันวัดในพระพุทธศาสนา
เช่นวัดเชตวันในกัวลาลัมเปอร์และวัดไทยในปินัง
คือวัดไชยมังคลาราม
เป็นต้น
๖.พระพุทธศาสนาในประเทศสิงคโปร์ ด้วยเหตุที่พลเมืองส่วนใหญ่ของสิงคโปร์เป็นชาวจีน ซึ่งมาตั้งรกรากอยู่ที่สิงคโปร์จึงได้นำเอาพระพุทธศาสนานิกายมหายานเข้ามาเผยแผ่ด้วย มีวัดในพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัดในนิกายมหายาน สำหรับในนิกายเถรวาท ได้แก่วัดศรีลังการามายณะ ของศรีลังกา วัดอานันทเมตทยารามและวัดป่าเลไลยก์ของไทย
๗.พระพุทธศาสนาในประเทศอินโดนีเซีย
พระพุทธศาสนานิกายมหายาน
ได้เข้ามาเผยแผ่ในอินโดนีเซียสมัยอาณาจักรศรีวิชัย
โดยมีโบราณสถานที่สำคัญ
๒
แห่งในอินโดนีเซีย
คือโบโรบุดุร์
หรือบรมพุทธโธ
ในภาคกลางของเกาะชวา
และพระวิหารเมนด
เมื่ออาณาจักรศรีวิชัยเสื่อมลง
กษัตริย์ของอาณาจักรมัชณปาหิต
ขึ้นมามีอำนาจ
ได้มีความเลื่อมใสในศาสนาอิสลามและประกาศห้ามเผยแผ่พระพุทธศาสนา
และทรงยกย่องศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ
พระพุทธศาสนาจึงเสื่อมลงตั้งแต่นั้นมา
ในปัจจุบันชาวอินโดนีเซียที่ยังคงศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นนิกายมหายานอยู่
เช่นในเกาะชวา
สุมาตราและบาหลี
ความสำคัญของพระพุทธศาสนาต่อการช่วยส่งเสริมความเข้าใจอันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน
พระพุทธศาสนาช่วยให้มีความสำพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านได้เพราะ
๑.
พระพุทธศาสนาสร้างลักษณะนิสัย
รักสงบ
เอื้อเฟื้อ
ใจกว้าง
อดทน
ให้อภัย
ปรับตัวง่าย
เป็นมิตรกับเพื่อนมนุษย์
ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความเข้าอันดีต่อกันโดยเฉพาะบริเวณชายแดน
พระสงฆ์
ข้าราชการชายแดน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์เยือนด้วยมิตรไมตรี
๒. การมีปูชนียวัตถุ
ปูชนียสถาน ในประเทศเพื่อนบ้าน
ทำให้มีการแลกเปลี่ยนนมัสการ
แลกเปลี่ยนพระพุทธรูปและคัมภีร์
๓.
การปฏิบัติธรรม
มีการแลกเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติ
เช่น
วิปัสสนากรรมฐาน
ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรทางพระพุทธศาสนา
ระหว่าประเทศเพื่อนบ้านช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศดีขึ้น
๔. พุทธศาสนิกชนไม่รังเกียจศาสนาอื่น
สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
๕
หลักธรรมพระพุทธศาสนาในการสร้างสัมพันธไมตรี
คือหลักสาราณียธรรมและหลักสังคหวัตถุ
(๑) หลักสาราณียธรรม
ประกอบด้วย
การมีเมตตาทางกาย
วาจา ใจ
การแบ่งปันผลประโยชน์การปฏิบัติเสมอกันกับมิตรประเทศ
การมีความคิดเห็นตรงกับมิตรประเทศ
(๒) หลักสังคหวัตถุ
๔ ได้แก่ ทาน
ปิยวาจา
อัตถจริยา
สมานัตตตา
๖.
สร้างสัมพันธ์ไมตรีตามแนว
ทางของพระเจ้าอโศกมหาราช
ได้แก่
(๑)
ให้สิทธิในการเผยแผ่ศาสนาอื่น
ไม่ขัดขวาง
ดูหมิ่นศาสนาอื่น
(๒)
ให้ความเอื้อเฟื้อศาสนาอื่นที่เผยแผ่เข้ามาสู่ประเทศของเรา
(๓)
สร้างความปรองดองสมานฉันท์ระหว่างกัน
ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะ
รู้จักเสียสละ
รู้จักประสานประโยชน์
(๔)
พยายามละเว้นการสร้างข้อพิพาท
การทำสงคราม
โจมตีให้ร้ายกัน
ถ้าต้องการแข่งขันเอาชนะควรเอาชนะกันด้วยธรรม
พุทธประวัติ ประวัติพุทธสาวก และชาวพุทธตัวอย่าง
พุทธประวัติ
พุทธจริยาอันเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
พระพุทธเจ้าทรงมีพระจริยวัตรที่ปฏิบัติเป็นปกติวิสัย
๓ ประการ คือ
๑.โลกัตถจริยา
แปลว่าการบำเพ็ญประโยชน์แก่โลก
หมายถึงการบำเพ็ญประโยชน์แก่หมู่สัตว์โลก
ได้แก่
การบำเพ็ญประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไป
ดังนี้
๑)
ส่งสาวกไปประกาศพระพุทธศาสนาเพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน
๒)
เสด็จไปเทศนาสั่งสอนประชาชน
๓)
ตรวจดูด้วยพระญาณว่าคนหมู่ใดจะรับฟังคำสอนได้บ้างเพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้เสด็จไปแสดงธรรมโปรด
๔)
ทรงสอนให้เศรษฐีเสียสละเพื่อความยากจน
๒. ญาตัตถจริยา
แปลว่า
การบำเพ็ญประโยชน์
แก่ญาติ
หมายความว่าทรงสอนให้พระญาติทางฝ่ายพุทธบิดา
และฝ่ายพุทธมารดาได้ประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง
การบำเพ็ญประโยชน์แก่ญาติที่พระพุทธเจ้าทรงกระทำดังนี้
๑)
ทรงแสดงธรรมโปรดพุทธบิดาและพระประยูรญาติสำเร็จมรรคผลกันตามสมควร
๒)
ทรงให้การอุปสมบทแก่พระนันทะ
พระราหุล
๓)
ทรงให้การอุปสมบทแก่พระอานนท์
พระอนุรุทธ
พระภัทธิสักยราช
พระภัคคุ
พระกิมพิละ
และพระเทวทัต
๔)
ทรงให้การอุปสมบทภิกษุณีองค์แรก
คือ พระนางปชาบดีโคตมี
๕)
ทรงอนุญาตให้พระประยูรญาติที่เป็นเดียรถีร์อุปสมบทได้
๖)
ทรงเสด็จห้ามพระประยูรยาติฝ่ายพุทธบิดากับฝ่ายพุทธมารดาที่วิวาทเพราะเรื่องแย่งน้ำ
๓. พุทธัตถจริยา
แปลว่า
การบำเพ็ญประโยชน์ในฐานะเป็นพระพุทธเจ้า
ภารกิจที่พระพุทธเจ้าทรงกระทำในฐานะที่ทรงเป็นพระพุทะเจ้ามีอยู่มากมาย
เช่น
๑)
ช่วยสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากความทุกข์
คือให่หลุดพ้นจาการเวียนว่ายตายเกิด
๒)
ทรงบัญญัติพระวินัยเพื่อความดำรงทรงมั่นแห่งพระพุทธศาสนา
คือ
ศีลสำหรับภิกษุ
และภิกษุณี
๓)
ทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
โดยมีพุทธบริษัท
๔ คือ ภิกษุ
ภิกษุณี
อุบาสก
อุบาสิกา
๔)
ทรงมอบให้พระสงฆ์เป็นใหญ่ในกิจการทั้งปวง
และทรงอนุญาตให้พระธรรมวินัยเป็นศาสนาแทนพระองค์
ประวัติพุทธสาวก
พระราหุล เป็นโอรสของเจ้าชายสิทธัตถะ กับพระนางยโสธราหรือพระนางพิมพา ผู้ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าสุทโธทนะผู้ครองกรุงกบิลพัสดุ์ พระพุทธเจ้าได้ตรัสพระสารีบุตรให้บรรพชาแ่พระราหุลและมีอายุ ๗ พรรษา จึงถือว่าเป็นสามเณรองค์ในพระพุทธศาสนา
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
๑.
เป็นผู้มีความอดทนเป็นเยี่ยม
เพราะบรรพชาตั้งแต่อายุ
๗ ปี
๒.
เป็นผู้มีความนอบน้อมถ่อมตน
ทั้งที่เป็นโอรสของพระพุทธเจ้าแต่ก็อ่อนน้อมต่อพระภิกษุสงฆ์ผู้อาวุโสกว่าทุกท่าน
๓.
เป็นผู้ฝักใฝ่การศึกษาอย่างยิ่ง
๔.
เป็นผู้ว่านอนสอนง่าย
ยอมรับฟังโอวาทของพระพุทธเจ้าและพระอุปัชฌาย์แล้วนำไปปฏิบัติ
๕.
เป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร
รับใช้พระพุทธเจ้าและพระสารีบุตร
เมื่อได้เป็นพระภิกษุก็หมั่นศึกษาธรรมะเพิ่มเติมจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์
๖.
เป็นผู้มีความกตัญญู
ชาวพุทธตัวอย่าง
นางจูฬสุภัททา เป็นธิดาของอนาบิณฑิกเศรษฐี ต่อมาท่านเศรษฐีได้แต่งตั้งนาง๗ูฬสุภัททาเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับการทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์แทนพี่สาวตนโตที่แต่งงานมีครอบครัวไป นางได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย นางมีโอกาสไดฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจนบรรลุเป็นพระโสดาบัน
คุณธรรมที่ควรยึดเป็นแบบอย่าง
๑.
ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี
๒.
มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธสาสนา
๓.
ใช้เหตุผลในการโต้ตอบกับบิดาสามี
๔.
เข้าเจ้าพระพุทธศาสนาลึกซึ่งและมีวาทศิลป์ในการบรรยายพระคุณของพระพุทธเจ้า
สามารถจูงใจผู้อื่นให้หันมานับถือพระพุทธเจ้าได้
๖.
เป็นผู้มีอัธยาศัยไมตรีอันดี
กุมภโฆสกเศรษฐี เป็นบุตรของราชคหเศรษฐี เศรษฐีใหญ่แห่งเมืองราชคฤห์ เมื่อยังเล็กได้เกิดอหิวาตกโรคระบาด ท่านเศรษฐีกับภรรยาได้ป่วยหนักจึงเรียกบุตรชาติมาบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติและให้เรียบหนีไปอยู่ที่อื่นก่อน ๑๒ ปีต่อมากุมภโฆสกได้กลับมาบ้านท่านไม่ได้นำทรัพย์สมบัติที่ฝั่งอยู่มาใช้แต่ไปรับจ้างทำงานเป็นยามมีหน้าที่ปลุกคนให้ตื่นและเตือนคนให้ไปทำงาน อยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งแคว้นมคธ ผู้ทรงมีความสามารถพิเศษในการฟังเสียงของมนุษย์และสัตว์ เมื่อได้สลับฟังเสียงปลุกของกุมภโฆสกจึงทรงรับสั่งว่านั่นคือเสียงของคนมีทรัพย์มาก ต่อมาภายหลังทราบว่าเป็นเศรษฐีทรงยกย่องและนำไปเฝ้าพระพุทธเจ้า และกราบทูลความดีของกุมภโฆสก ว่าเป็นเศรษฐี มีทรัพย์มาก แต่ไม่เย่อยิ่งถือตัวนุ่งนุ่มด้วยผ้าเก่า ๆ มีความอดทน เที่ยวรับจ้างเหมือนคนกำพร้า
คุณธรรมที่ควรยึดเป็นแบบอย่าง
๑.
เป็นผู้รู้จักถ่อมตน
๒.
เป็นผู้ตั้งปฏิบัติหน้าที่
๓. เป้นผู้มีความฉลาด
รู้จักอดออมถนอมทรัพย์ไว้
๔.
เป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
๕.
เป็นผู้มีคุณธรรมดีเด่นหลายประการ
เช่นความอดทน
ความสุจริต
ความมีสติ
ความมีปัญญา
เป็นต้น