1. | แนวความคิดที่ต้องมีเงินมากกว่า จึงจะทำให้นักวางแผนสื่อทำแผนได้ดี ยิ่งมีมากยิ่งทำได้ดีเท่านั้น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ขอให้ลืมคำพูดนี้เสียได้เลย เพราะอะไรหรือครับ สินค้าที่มีโอกาสอย่างนี้คือมีเงินโฆษณามากพอที่ต้องการของนักวางแผนสื่อโฆษณษ
หรือมากว่าคู่แข่ง จะทำได้ อย่างนี้มีแค่ 1 รายหรือไม่เกิน 2 รายเท่านั้น เช่นคู่แข่งของ
เป๊ปซี่ กับ โค้ก หรือโอวัลติน กับ ไมโล หรือ โตโยต้า กับ ฮอนด้า หรือ DTAC
กับ Orange และสินค้าที่เหลือที่เป็นตู่แข่งของสินค้าเหล่านั้น น่าจะมีเงินโฆษณาเท่ากับ
เบอร์ 1 หรือ เบอร์ 2 หรือน่าจะมีมากกว่า ตอบได้เลยว่าไม่มี หรือเป็นไปไม่ได้
ทั้งหมดจะมีเงินโฆษณาน้อยกว่าทั้งนั้น ดังนั้น แนวคิดของการวางแผนสื่อ ไม่ว่าเราจะมีเงินน้อยกว่า หรือมากกว่า แผนที่นักวางแผนสื่อโฆษณาทำต้องมีความโดดเด่น ชัดเจน หมายถึงผลที่เกิดต้องได้ตามเป้าหมาย(วัตถุประสงค์การตลาด)ที่ต้องการ และหากมีเงินน้อยกว่า แล้วยังสามารถสร้างความโดดเด่นในการทำโฆษณา หรือในกรณีที่ต้องแข่งกับคู่แข่งในสื่อชนิดเดียวกันกับคู่แข่ง และยังทำได้ดีกว่าเสียอีก อย่างนี้สิ ถึงจะเรียกว่าเป็นแผนที่ดี สุดยอด ทั้งๆที่ใช้เงินน้อยกว่า แต่ได้ผลที่มากกว่าคนที่ใช้เงินเยอะกว่า (Dominant Brand Presence in Media) ส่วนเรื่องเทคนิคการทำอย่างไร ต้องเรียนกันอีกเยอะ หรือที่รู้ก็ต้องรู้ว่าสื่อแต่ละตัวดีกว่าหรือด้อยกว่าตัวอื่นๆ อย่างไร ก่อนอย่างน้อยจะได้เลือกได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | แนวความคิดของการใช้สื่อโฆษณา ต้องเหมาะสมกับช่วงเวลาขายสินค้ามากที่สุดได้ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เช่นขายร่มหน้าฝน ขายเสื้อกันหนาวช่วงหน้าหนาว ดังนั้นเมื่อเราออกกโฆษณาในเวลาช่วงนี้ โฆษณาสินค้าก็จะเป็นแรงเสริมให้กับสินค้า ที่จะกระตุ้นให้คนที่เห็นโฆษณาของเราเกิดการซื้อและใช้สินค้านี้ เช่น รองเท้านักเรียน ช่วงเวลาที่จะโฆษณา ก็ต้องเป็นช่วงก่อนเปิดเทอม แต่คำถามว่าก่อนสักเท่าไรจึงจะเหมาะสม นี่ซิปัญหา (When Are Consumers Buying?) ก็มีวิธีที่จะทำให้เรารู้ว่าช่วงไหนคือช่วงที่น่าจะทำโฆษณาสินค้าได้ จากยอดขายในแต่ละเดือนของสินค้าประเภทนั้น หากต้องการรู้ให้แน่จริงๆ ก็ต้องดูหลายๆ ปี ก็พอจะบอกช่วงเวลาให้กับเราได้ ดังนั้นจังหวะ ช่วงเวลา และการจัดสรรงบประมาณ(แผนการใช้เงิน) จึงต้องถูกวางได้เหมาะสมจริง ๆ และแข่งกับคู่แข่งได้ (ต้องไม่แพ้ แม้จะใช้เงินน้อยกว่า ก็ต้องมีแผน(ทีเด็ด)ที่โดดเด่น เด่นชัดกว่า) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | การวางแผนสื่อโฆษณาไม่เกี่ยวข้องกับพรสวรรค์ แต่เป็นการใช้ความคิด และสังเกต เรียนรู้ หาประสบการณ์ แต่เป็นพรแสวงตั้งหากนะครับ รู้จักนำสิ่งที่ดีและปรับประยุกต์นำมาใช้ต่อแผนสื่อโฆษณา (Creative Strategys Impact on Media Strategy) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | แนวความคิดของการวางแผนสื่อโฆษณา กาววางแผนสื่อโฆษณา(Alternative Media Strategies) นักวางแผนสื่อก็มีหนทางที่จะวางแผนสื่อโฆษณาได้หลากหลายวิธี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ปัญหา ก็มีหนทางที่ใช้แก้ปัญหาได้หลายทาง เช่นจากกรุงเทพฯ ให้ไปเชียงใหม่ที่รวดและประหยัดกว่าเครื่องบิน
คำตอบก็มีหลายอย่าง เช่นเดียวกับ การวางแผนสื่อโฆษณา ที่มีทางเลือกของแผนที่จะคิดหลากหลายวิธี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รวมทั้งอาจจะต้องมีแผนสำรอง ในกรณีฉุกเฉิน คู่แข่ง หรือมีสินค้าใหม่เข้าตลาด
แผนที่มีอยู่อาจจะต้องมีการแก้ไข ปรับเปลี่ยนไปได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามแต่ละแผนนักวางแผนคิด ก็จะมีเหตุผล บ่งบอกประกอบด้วยเสมอว่าทำไมจึงแนะให้ใช้กับไม่ใช้ เช่นที่เลือกใช้ป้ายโฆษณา ก็เพราะ แทนที่จะเลือกใช้นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ เพื่อสร้างความถี่ในการมองเห็นอย่างต่อเนื่อง คนที่มีบ้านอยู่แถวนั้น ต้องผ่านจุดป้ายโฆษณาของเราทุกวัน อย่างนี้เป็นต้นซึ่งเวลาเสนอแผนจะมีทั้งการนำเสนอด้วยคำพูดและประกอบเอกสารเสมอ ดังนั้นเหตุผลต่างๆ ที่นักวางแผนนำมากล่าวอ้าง ทั้งที่เลือกและไม่เลือก ก็จะมีการเขียนบ่งบอกไว้ในเอกสารเสมอ(บางครั้งสิ่งที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าคิด จำเป็นต้องมีการใช้ข้อมูล ตัวเลขมาประกอบสร้างความน่าเชื่อถือ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โฆษณา อันดับต่อมาที่ต้องการรู้ อะไร ก่อนที่นักวางแผนสื่อโฆษณาจะนำมาคิดทำแผน (What Media Planners Should Know Before Starting to Plan) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1. | ปัญหาของสินค้า (The Marketing Problems) ความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะการณ์ของสินค้า และปัญหาสินค้าเป็นอย่างดี คำว่าเป็นอย่างดีนั้นหมายถึงขนาดไหน ก็ต้องมากกว่าเจ้าของสินค้า ทำไมหรือครับเพราะสิ่งที่นักวางแผนโฆษณาทำให้ก็คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสินค้าในอนาคต และหากเริ่มจากความรู้และความเข้าใจที่คาดเคลื่อน ไม่ตรงตามจริง หรือน้อยกว่าเจ้าของสินค้า เชื่อได้ว่าแผนที่คิด คงจะได้ไม่ผลดีเท่าไรนัก เขาก็รู้ทันทีว่า คุณเก่งกว่าเขา หรือเขาเก่งกว่าคุณ ถามหน่อยอย่างนี้เขาให้เราทำโฆษณาทำไม หลายคนอ่านถึงตรงนี้ เกิดคำถามว่า นักโฆษณาจะหาข้อมูลความรู้เหล่านี้เพื่อให้เก่งกว่าเจ้าของสินค้าได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ใช่เจ้าของสินค้าสักหน่อย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคนทำโฆษณาไม่ว่าจะเป็น ครีเอทีฟ นักวางแผนสื่อโฆษณ หรืออื่นๆ ก็มีความรู้และเข้าใจตัวสินค้าเป็นอย่างดี จนสามารถจะขายสินค้าแทนลูกค้าได้ หรือบางครั้งต้องลงทุนทำโครงการวิจัยเพื่อต้รวจเช็ดข้อมูลของสินค้า ก็ยังต้องทำ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงและถูกต้องในการทำโฆษณา | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
และต้องเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับสินค้า อาจมีมากกว่าหนึ่งปัญหาก็ได้ และปัญหาอะไร ข้อไหนที่สามารถแก้ หรือทำได้ก่อนใช้เวลาอันสั้นๆ ได้ เช่น เพิ่มช่องทางการจำหน่าย ปรับราคาสินค้า ปรับปรุงหีบห่อ ทำโฆษณาใหม่ ไม่หนี เจ้าของสินค้าเป็นผู้เลือกและตัดสินใจ และต้องบอกนักโฆษณาได้ว่าปัญหาสินค้าคืออะไรและจะมีหนทางที่ใช้หรือนำแก้(จาก ส่วนผสมการตลาด Marketing Mix (4P)ตัวไหนในการแก้ปัญหา พร้อมกับ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | การเลือกวิธีที่ใช้ในการแก้ปัญหา (The Recommended Actions) ดูตัวอย่างของปัญหายอดขายตกต่ำ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ปัญหายอดลดลงจากปีที่แล้ว เป้าหมายที่ต้องการคือเพิ่มยอดขาย หรือรักษาส่วนแบ่งตลาดให้คงไว้(พยุงอย่าให้ตกลงมากกว่านี้) เจ้าของสินค้ามีหนทาง วิธีที่นำมาใช้แก้ปัญหา เพื่อให้กระตุ้นให้เกิดยอดขาย เช่น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1. ลดราคาสินค้า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2. ปรับปรุง พัฒนาสินค้าให้มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า หรือมากกว่า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3. ลดราคาสินค้า และใช้การโฆษณาเพื่อให้แจ้งข่าวการปรับราคา ที่ถูกว่าเดิม | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4. กระตุ้นโดยใช้การโฆษณามาเสริม ในเชิงของการแจ้งข่าว ประกาศ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5. ใช้แนวทางการโฆษณาใหม่ สร้างความน่าสนใจ ต่อตัวสินค้า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6. ใช้การส่งเสริมการขาย ลด แลก แจก แถม ชิงโชค | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7. ใช้แผนการเจาะทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีผลต่อการเพิ่มยอดขาย IMC | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8. กระจายสินค้าให้มากยิ่งขึ้น ทั่วถึง ครอบคลุ่มให้มากกว่า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9. ปรับเปลี่ยนหีบห่อ บรรจุภัณฑ์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10. เลือกเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ ที่แตกต่างจากเดิม เช่น เด็ก มาเป็นผู้ใหญ่ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เจ้าของสินค้าก็ต้องเลือก 1 ใน 10 ข้อนี้ หรือบางทีอาจจะต้องใช้มากกว่า 1 ข้อก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่อย่างไรก็ต้องบอกเขาว่า เลือกข้อไหนสมมุติเลือก วิธีที่ 1 คือ ลดราคา นักวางแผนสื่อโฆษณาสามารถจะวางแผนสื่อ ให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้หลายวิธี เช่น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1. ประกาศให้ดัง เพื่อให้เข้าถึงทุกคน ทุกกลุ่มเป้าหมาย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2. หรือเน้นเจาะเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อสินค้า (ลูกค้าเดิมอยู่แล้ว) เพราะการแข่งขันสูง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นักวางแผนสื่อจะต้องคิดต่อว่าแล้วสื่ออะไรที่จะน่าจะนำมาใช้ในการแนวทาง 1
(ประกาศให้ดัง)หรือในแนวทาง 2(เจาะกลุ่ม) เช่น แนวทางที่ 1 ใช้สื่อ Mass Media
เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ ในแต่ละสื่อ นักวางแผนสื่อสามารถจะสร้างแผนออกมาได้อีกมากมาย
ตรงนี้นักวางแผนมือเก๋าๆ เขาจะรู้ว่าต้องใช้สื่ออะไรที่จะเหมาะกับพฤติกรรมของการใช้สินค้านี้มากที่สุด
และก็แนะนำและแผนนี้ให้ดีที่สุด ในเรื่องของพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่มีผลต่อสินค้า มีผลต่อการสร้างแผนสื่อโฆษณา เช่น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายซื้อสินค้าโดยเฉพาะเหตุจูงใจอะไร ที่ใช้ในการประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าด้วย ภาพพจน์ ราคา คุณสมบัติ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่นักวางแผนสื่อโฆษณาจะต้องรู้ (How the Product Will Be Sold) จริงๆ หลักใหญ่ที่ว่า คนซื้อสินค้าเพราะอะไร หรือนักวางแผนสื่อโฆษณาก็พอจะมองออกจากสิ่งที่โฆษณาต้องทำในส่วนความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้เป็นจุดในการทำโฆษณา สมมุติว่า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อีกสิ่งหนึ่งที่นักวางแผนสื่อโฆษณาต้องรู้และเข้าใจต่อมาก็คือ โฆษณาจะช่วยให้สินค้าขายได้อย่างไร |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การวางแผนสื่อโฆษณาที่ต้องรู้ต่อมาก็คือ เงินโฆษณาของคู่แข่ง
ไม่รู้เขา แล้วเราจะทำแผนให้ดีกว่าใครได้อย่างไร ดังนั้นสิ่งที่นักวางแผนสื่อจะทำให้เหนือกว่าคู่แข่ง (How to Neutralize the Competitions strategy) ที่พอจะสรุปให้เห็น เช่น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คราวนี้ในแง่ของสื่อโฆษณา คำว่าเหนือกว่าที่พูดไว้ข้างต้นนับวันจะทำได้ยากแล้ว ต่างฝ่ายก็รู้ และยอมกันไม่ได้ เธอมี ทั้งก็มีด้วย คงเหลือแต่หนังโฆษณาเท่านั้น ที่ไม่มีใครกล้าลอกเลียนแบบใคร แต่อยู่ที่ใครทำได้ดีกว่า ก่อนกัน ส่วนเรื่องการวางแผนสื่อโฆษณา ก็ทำได้ยากเช่น แต่ก็พอจะสรุปวิธีที่จะเลือกมาใช้ในการสร้างความแตกต่างได้ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1. การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่มที่แตกต่าง (เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย) มากกว่าคู่แข่ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2. การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างจากคู่แข่ง (เข้าคนละกลุ่มเป้าหมาย เช่น เข้าระดับรายได้ทางสังคม SES A B ส่วนอีกรายหนึ่ง SES C-D) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3. จำนวนครั้งของความถี่ที่มากกว่า Frequency | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ด้วยสื่อโฆษณาที่ยังไม่มีใครทำมาก่อน (การลงโฆษณาทาง UBC มากว่าที่จะลงใน สถานีโทรทัศน์ทั่วไป ที่เรียกว่า Free TV) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5. การเข้าร่วมส่งเสริมการขายกับสื่อ ที่ Asia Fantasia ของ UBC | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6. รวมทั้งการคิดวางแผนสื่อโฆษณาที่แตกต่าง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
งบประมาณที่ต้องการใช้ในแผนสื่อโฆษณา ปกติแล้วนักวางแผนสื่อจะมีข้อมูลการใช้เงินโฆษณาของคู่แข่ง รายละเอียดประเภท รายการ ช่วงเวลาโฆษณาของสินค้าประเภทเดียวกัน (คู่แข่ง) ดังนั้นเรื่องงบประมาณจึงมีคำ 2 คำเท่านั้น คือ มาก กับ น้อย และที่เจอมากที่สุด ก็คือ น้อยกว่า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ดังนั้นวิธีการวางแผนและจัดสรรเงินจึงเป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักวางแผนสื่อโฆษณา(The Cost of Strategies) หรือหากจำเป็นต้องใช้เงินที่เกินตัว หรือมากกว่าเป็นจริง ก็ถือว่าเป็นการลงทุนหวังผลในระยะยาว ไม่ว่าจะมากหรือน้อย แผนที่สร้างขึ้นมาต้องสามารถจะตรวจสอบและคาดหวังผลที่จะเกิดขึ้นได้ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ยังมีอย่างอื่นๆ ที่นักวางแผนสื่อโฆษณาจะต้องรู้ก่อนที่วางแผนสื่อโฆษณา (Other Elements of Media Strategy) เช่น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กลุ่มเป้าหมายของสื่อโฆษณา (Media Targets) ปกติแล้วจะมีการกล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายของสื่อโฆษณาตั้งแต่เริ่มต้นแผนสื่อโฆษณาเสมอ ก็เพราะจะได้รู้ว่าใครคือคนที่จะเห็นโฆษณาของเราจากสื่อที่ใช้ นักวางแผนสื่อต้องรู้ทั้งในแง่ของกายภาพและภูมิศาสตร์ (Geographic & Demographic) หรือบางครั้งอาจจะมองลึกไปถึงจิตภาพของคน(ภายในจิตใจ) Psychographics ด้วยเหมือนกัน เช่นคนซื้อ ไม่ได้ใช้ เช่น รองเท้านักเรียนเด็ก ซึ่งจะเป็นพ่อแม่มากกว่าเด็กนักเรียนที่เป็นคนใช้ การโฆษณาก็จะมุ่งเน้นไปที่ผู้ใหญ่มากกว่าตัวเด็ก แต่ก็มีที่เราต้องโฆษณาไปยังเด็ก เพื่อให้พ่อแม่ซื้อให้ เช่น วิดีโอ เกม เครื่องเล่นเกม P2S คนวางแผนสื่อโฆษณาก็ต้องวางเป้าหมายสื่อโฆษณาได้ยังถูกต้อง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
งานโฆษณาที่จะสร้างขึ้นมาใช้ในการโฆษณา (The Creative Strategy) สิ่งที่แผนกความคิดสร้างสรรค์ คิดขึ้นมา ก็จะมีตัวชึ้ที่บ่งบอกว่านักวางแผนสื่อโฆษณาต้องจัดซื้อสื่อโฆษณาอะไร เน้นภาพ เน้นข้อความ เน้นใหญ่ เน้นเวลา เน้นความต่อเนื่อง รวมทั้งความต้องการพิเศษของคนคิดหรือไม่ หรือมีกิจกรรมการตลาดพิเศษเพิ่มเติม เช่น การส่งเสริมการขาย นอกเหนือจากการโฆษณาสินค้าทั่วไปแล้ว ปกติบริษัทโฆษณา จะมีการประชุมวางแผนโฆษณาให้กับสินค้าและมีข้อสรุปแนวทางที่จะทำโฆษณาสำหรับสินค้านี้กันก่อนเสมอ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในเรื่องงบประมาณโฆษณา (Budget Constraints) ทุกแผนการตลาด มักจะมีการกำหนดเงินค่างวดโฆษณากันมาก่อนล่วงหน้าแล้ว รวมทั้งงบประมาณสื่อโฆษณาและเขตพื้นที่ตลาดที่ต้องการ ซึ่งตรงนี้นักวางแผนสื่อโฆษณา ก็ถูกกำหนดกรอบแห่งความคิดแผนสื่อโฆษณาให้กับสินค้าไว้เช่นกัน แต่ก็เคยมีเหมือนกันที่สินค้าเปิดกว้างในเรื่องเงินโฆษณาที่ใช้ ตามความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การตลาด(ผลที่ต้องการ) นักวางแผนสื่อโฆษณาก็ต้องสรุปและชึ้แนะเพื่อใช้ในการวางแผนสื่อโฆษณาให้กับสินค้าตัวนี้ได้ ในกรณีที่นักวางแผนสื่อต้องการที่ผลักดันให้ลูกค้าต้องใช้เงินมากกว่าที่ให้ นักวางแผนสื่อโฆษณาต้องทำแผน เรียกว่า แผนเสนอที่ควรจะเป็นอีกแผนประกอบไปด้วย หากลูกค้ามองเห็นความสำคัญและเหตุผลของนักวางแผนสื่อ ก็เป็นได้ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การประเมินแผนสื่อโฆษณาในประสิทธิภาพ เช่น ราคาต่อ 1000 คนที่เห็นโฆษณา CPM (Cost Efficiency) เมื่อก่อนจะนิยมใช้การประเมินผลของแผนสื่อโฆษณาในแง่ของสื่อแต่ละตัว หรือต้องการที่บ่งบอกฝ่ายจัดซื้อสื่อโฆษณา ว่าจะต้องได้ค่า CPM ที่ไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ แต่เดี๋ยวนี้ นักวางแผนสื่อโฆษณาสมัยใหม่จะหันไปใช้ตัวอื่นในการวัดประสิทธิ์ภาพสื่อโฆษณา ซึ่งจะได้เรียนกันในภายหลัง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การเข้าถึงและความถี่ (Reach and Frequency) หากจะแปลให้ง่ายก็คือการนำพาโฆษณาไปถึงกลุ่มเป้าหมาย Reach ว่าเข้าถึงคนได้จำนวน(ปริมาณ)เท่าไรที่เห็นโฆษณา หรือวัดว่าคนที่เห็นโฆษณาซ้ำของเราโดยเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่งจะได้สักกี่ครั้ง Frequency | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นักวางแผนปัจจุบันได้ใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดขอบเขตเป้าหมายของการวางแผนสื่อโฆษณาที่ต้องการ ซึ่งนักวางแผนสื่อโฆษณาก็จะต้องแสดงเหตุผลที่กำหนดค่าของการเข้าถึงและจำนวนครั้งที่ต้องการต่อกลุ่มเป้าหมายในการใช้แผนสื่อโฆษณา เช่นจุดประสงค์การวางแผนสื่อโฆษณาครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ผู้หญิง อายุ 25 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพ ให้ได้ 75% และให้มีการเห็นโฆษณาของเรา 2 ครั้งขึ้นไป | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ระยะเวลาที่จะใช้สำหรับการโฆษณา (Continuity) ซึ่งการวางแผนสื่อโฆษณาสิ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็คือข่วงเวลา ระยะของการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ว่าจะมีการจัดวางแผนของสื่อที่จะใช้เป็นอย่างไร ซึ่งต้องถูกต้องตรงตามเป้าหมายการตลาด | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ขอบเขตพื้นที่ตลาดที่ต้องการ ทั่วประเทศ หรือเน้นที่บางเขต บางพื้นที่ ของการตลาดสินค้าต้องการได้ สมัยใหม่จะเริ่มมีการระบุความต้องการของพื้นที่ให้กับบริษัทโฆษณา | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนที่จะเข้าไปลึกกว่านี้ คำที่ได้เคยศึกษามาแล้ว เช่น Reach, Frequency, Continuity, ขนาดและจำนวนพื้นที่ตลาดที่ Number of Market มีส่วนที่เข้าเกี่ยวข้องกับการวางแผนสื่อโฆษณาอย่างไร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทบทวนความหมายกันก่อนว่า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ที่สำคัญก็คือ งบประมาณ ที่ตายตัว ส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่าง 4 ตัวที่เหลือทันที
สมมุติว่าแผนนี้เราเลือกที่เน้นไปที่กระจายให้กว้าง (เช่นเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงทุกเขตพื้นที่ ทั่วประเทศ) |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลก็คือ R เยอะ ส่งผลให้ F น้อยทันที | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
จากที่ได้ศึกษามาว่า GRP = Reach x Frequency ดังค่า R และ F จะมีความสัมพันธ์ในเชิงปฏิปักษ์ ค่าตัวหนึ่งมาก อีกตัวหนึ่งจะน้อย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ส่วนค่าของ C และ N ก็ได้ผลกระทบด้วยเช่นกันตรงที่ว่า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เพราะเราเน้น Reach หมายถึงภาระที่ข่าวสารของโฆษณาไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันยิ่งมากยิ่งดี เพราะทำให้การเข้าถึงได้มากโอกาสที่จะรับข่าวสารโฆษณาก็เพิ่มขึ้น ปกติการเลือกสื่อเพียงอย่างเดียว เช่นโทรทัศน์ หรือนิตยสาร โอกาสที่จะเพิ่มการเข้าถึงก็มีจำกัด(ได้น้อย) แต่หากเราใช้สื่อที่มีความแตกต่างหรือหลากหลายโอกาสที่จะเพิ่มการเข้าถึงก็จะเพิ่มขึ้น ผลตามก็คือเงินที่ต้องใช้เพิ่มขึ้นจากการสื่อโฆษณา ส่งผลต่อปัจจัยอื่นอีก 3 ตัวที่เหลือแน่นอน คือ Frequency ที่คนจะเห็นโฆษณาก็จะน้อยลงไปด้วย โอกาสที่จะสร้างจำนวนพื้นที่ตลาดก็น้อยลง พร้อมกับระยะเวลาที่โฆษณาก็น้อยไปด้วยเช่นกัน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|